ประจวบคีรีขันธ์ - กลุ่มนักตกปลาเช่าเรือสปีตโบตออกไปตกปลาในท้องทะเลหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบวาฬบรูด้า ยาวประมาณ 8-10 เมตร หนักกว่า 10 ตัน โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ และว่ายเข้ามาลอดใต้ท้องเรือ สร้างความตื่นเต้นให้นักตกปลาเป็นอย่างมาก ด้านรองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ยืนยันว่า เป็นวาฬบรูด้า
วันนี้ (2 ก.พ.) นี่เป็นภาพของกลุ่มนักตกปลาจากทั้งกรุงเทพฯ หัวหิน และปราณบุรี ได้เช่าเรือสปีตโบต ของ นายธีระ ภู่ผาสุก ออกไปตกปลาที่บริเวณท้องทะเลห่างจากชายฝั่งด้านหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 4 ไมล์ทะเล ขณะที่นักตกปลากลุ่มนี้กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการตกปลา ก็พบเห็นวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 8-10 เมตร คาดน้ำหนักอย่างน้อยประมาณ 10 ตัน ว่ายโผล่ขึ้นจากผิวน้ำ และดำหายลงไป และโผล่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบางครั้งว่ายลอดใต้ท้องเรือ และโผล่ขึ้นมาด้านข้างเรือ และบริเวณหัวเรือ สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่กลุ่มนักตกปลาเป็นอย่างมาก ยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสเห็นวาฬบรูด้าอย่างใกล้ชิด
นายธีระ ภู่ผาสุก เจ้าของเรือสปีตโบตลำดังกล่าว และเป็นผู้บันทึกคลิปภาพวิดีโอวาฬบรูด้าได้ บอกว่า ระหว่างนำนักตกปลาออกไปตกปลาในช่วง 2 วันที่ผ่านมา อยู่ด้านหน้าของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ในช่วงสายจนถึงเที่ยงซึ่งบริเวณดังกล่าวมีระดับน้ำลึกประมาณ 20-30 เมตร ได้สังเกตพบเห็นวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ว่ายอยู่ในช่วงเวลา 10 โมงเช้า ไปจนถึงช่วงเที่ยง ซึ่งในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ที่ออกเรือไปตกปลากันนั้นได้พบเห็นวาฬบรูด้าทั้ง 2 วัน และยืนยันว่าเป็นตัวเดียวกัน เพียงแต่ช่วงที่วาฬบรูด้าขึ้นมาจากผิวน้ำยังไม่ได้พบเห็นช่วงที่มีการอ้าปากเพื่อรอรับลูกปลาเหมือนกับที่วาฬบรูด้าขึ้นทางทะเลแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี ทั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วัน ก็มีกลุ่มเพื่อนักตกปลาแจ้งให้ทราบว่าได้พบวาฬบรูด้าเช่นกันที่หัวหิน
ด้าน นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ได้ตรวจสอบจากภาพถ่ายที่ทางสื่อมวลชนส่งมาให้ดูแล้ว ทางนักวิชาการของทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยืนยันว่า เป็นวาฬบรูด้าอย่างแน่นอน รูปร่างลัษณะลำตัวสีเทาดำ รูปร่างค่อนข้างเพรียว ส่วนตัวมีแนวสันนูน 3 สัน ครีบเล็ก และปลายแหลม เมื่อโตเต็มที่ลำตัวจะยาวประมาณ 16 เมตร น้ำหนัก 20-25 ตัน อาหารส่วนใหญ่เป็นแพลงก์ตอน ปลากะตัก ซึ่งบริเวณดังกล่าวที่พบเป็นเส้นทางที่วาฬบรูด้ามีการเคลื่อนย้ายหากินตั้งแต่จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงไปถึงจังหวัดชุมพร ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติทีวาฬบรูด้าจะตามหารอาหาร
อย่างไรก็ตาม วาฬบรูด้าตัวดังกล่าวที่กลุ่มนักตกปลาพบจะอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับที่ทางนักวิชาการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ทำการสำรวจ และเก็บข้อมูลเป็นรายตัว และตั้งชื่อเอาไว้ ประมาณ 50 ตัว ทั้งนี้ ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าอยู่ในฝูงเดียวกันหรือไม่ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่พบเห็นวาฬบรูด้าในบริเวณท้องทะเลประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งก็มีการแจ้งข้อมูลให้ทางนักวิชาการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ทราบทุกครั้งที่พบเพื่อเป็นฐานข้อมูล
