xs
xsm
sm
md
lg

วอนทั้งน้ำตา “สาวพิการ” โคราชทำเงินทุนเลี้ยงชีพหล่นหาย 4 หมื่น โร่แจ้ง ตร.ช่วยส่งคืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสมพร รักไทย อายุ 45 ปี พิการขาทั้งสองข้าง อาศัยอยู่ในบ้านพักผู้พิการ ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กระเป๋าเงินทุนก้อนสุดท้ายหล่นหาย กว่า 40,000 บาทพร้อมเอกสารสำคัญ วันนี้ ( 1 ก.พ.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สาวพิการโคราชทุกข์ซ้ำ ทำเงินทุนก้อนสุดท้ายของครอบครัวกว่า 40,000 บาทเตรียมไปจองสลากฯ ขายเลี้ยงชีพหล่นหายระหว่างขี่จักรยานยนต์พ่วงเดินทางไปทำงาน โร่แจ้งตำรวจ สภ.เมืองโคราชวิงวอนทั้งน้ำตาใครเก็บได้ช่วยส่งคืน เผยชีวิตแสนลำบากพิการทั้งตัวเองและสามี พึ่งอาชีพขายสลากฯ เลี้ยงลูกสาว 12 ปี อีก 1 คน

วันนี้ (1 ก.พ.) ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา นางสมพร รักไทย อายุ 45 ปี พิการขาทั้งสองข้าง อาศัยอยู่ในบ้านพักผู้พิการ ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ต.วิทยา ถาปาบุตร ร้อยเวร สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ช่วยตามหากระเป๋าเงินที่หล่นหาย โดยภายในมีเงินสดจำนวนกว่า 40,000 บาท และเอกสารสำคัญ ทั้งบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยและบัตรประจำตัวผู้พิการ ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวเตรียมจะนำเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยเพื่อจองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่ายในงวดต่อไป

นางสมพรเล่าทั้งน้ำตาว่า ตนและสามีเป็นผู้พิการขาทั้งสองข้าง ไร้ที่อยู่อาศัย มีอาชีพหลักขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อหาเงินเลี้ยงลูกสาววัย 12 ปีที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.6 ชีวิตแสนลำบากปากกัดตีนถีบ ได้กำไรจากการขายสลากฯ งวดละ 4,800 บาท พอมีใช้จ่ายในครอบครัว

ขณะนี้เป็นทุกข์อย่างมาก เนื่องจากเช้าวันนี้ขณะที่ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเดินทางจากบ้านพักผู้พิการหนองโสมง ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง นครราชสีมา มาตามถนนด่านเกวียน-หนองระเวียง เพื่อไปทำงานวันแรกที่ รพ.สต.หน้าพะลาน ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และได้นำกระเป๋าเงินภายในมีเงินสดกว่า 40,000 บาท พร้อมเอกสารสำคัญ เช่น บัตรเอทีเอ็ม และบัตรผู้พิการ ใส่ไว้ในเสื้อคลุมที่สวมมาทำงาน เพื่อช่วงเย็นจะได้นำเงินไปเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยเพื่อจองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่ายในงวดต่อไป

แต่เมื่อเดินทางมาถึงที่ทำงานตนได้ตรวจสอบดูกระเป๋าเสื้อคลุมปรากฏว่ากระเป๋าเงินหายไปแล้ว ตนตกใจอย่างมากจึงรีบวนรถกลับไปหาและถามคนที่ผ่านไปมาแต่ไม่มีใครพบเห็นเลย จึงเดินทางเข้ามาแจ้งความตำรวจดังกล่าว

ขอกราบวิงวอนว่าหากใครเก็บกระเป๋าเงินดังกล่าวได้ช่วยนำมาคืนให้ด้วย เพราะเงินจำนวนนี้เป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายและก้อนเดียวที่ครอบครัวตนซึ่งเป็นผู้พิการมีเหลืออยู่ และใช้เป็นทุนประกอบอาชีพเป็นอนาคตของลูก หากไม่กล้านำมาคืนจะโอนเข้าบัญชีธนาคารของตนเองก็ได้ นางสมพรกล่าวในตอนท้าย




กำลังโหลดความคิดเห็น