เตรียมส่งออก “โควากิว-แพะ” ไปลาว พ่อเมืองหนองคายหนุนเกษตรกรเลี้ยงเสริมรายได้

หนองคาย - ผู้ว่าฯ หนองคาย ส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงโควากิว และเลี้ยงแพะ จัดสรรงบประมาณสนับสนุนงานวิชาการเสริมศักยภาพเกษตรกร หลังตลาดทั้งไทยและต่างประเทศต้องการบริโภคแพะสูง ยอดสั่งซื้อเพิ่มสูงมาก

วันนี้ (31 ม.ค. 60) นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำคณะหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย ดำเนินโครงการผู้ว่าฯ พาไปยาม ครั้งที่ 2 เศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงแพะ เลี้ยงโคพันธุ์ดี มีอาชีพเสริม เพิ่มพูนรายได้ จุดแรกที่ศูนย์ธนาคารโคกระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ กลุ่มผู้เลี้ยงโคกระบือ บ้านท่าคำบง ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย

ทั้งนี้ ได้พบปะพูดคุยแนวทางพัฒนาส่งเสริมการเลี้ยงโคพันธุ์วากิวแก่เกษตรกร พร้อมทั้งมอบเครื่องอัดฟาง และเครื่องสับหญ้าให้แก่นางมลิวรรณ พลราช นายก อบต.วังหลวง ประธานกลุ่มเลี้ยงโคกระบือ เพื่อใช้ผลิตอาหารสัตว์ให้มีประสิทธิภาพขึ้น ขณะนี้กลุ่มมีสมาชิก 61 คน เลี้ยงโค 157 ตัว กระบือ 70 ตัว เป็นโคที่ผสมพันธุ์วากิวและติดพันธุ์แล้ว 13 ตัว ทั้งปลูกหญ้าพันธุ์เนเปียร์ พันธุ์รูซี่ ไว้เป็นอาหารโคกระบือ

ก่อนหน้านี้ประสบปัญหาการบริหารจัดการอาหารสัตว์ไม่เพียงพอ จังหวัดจึงสนับสนุนเครื่องอัดฟางและเครื่องสับหญ้า ทำให้สามารถเก็บฟางได้วันละ 500-800 ก้อน ช่วยเพิ่มอาหารสัตว์และลดปัญหาเผาตอซังข้าวลดมลภาวะด้วย

จุดที่ 2 เป็นกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะเนื้อ ตามโครงการเลี้ยงแพะประชารัฐ บ้านใหม่วังไฮ หมู่ 13 ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ ซึ่งจัดสรรเงินตามโครงการประชารัฐ 2 แสนบาท มาซื้อแพะเนื้อเลี้ยงในกลุ่มสมาชิกของหมู่บ้าน มีนายนัฐพงษ์ เทศนา ผู้ใหญ่บ้านเป็นประธาน นำผู้สนใจในหมู่บ้านเลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริม โดยขอใช้ที่ดินราชพัสดุในการดูแลของโรงเรียนบ้านแบง เป็นพื้นที่ตั้งโรงเรือนและปลูกหญ้า เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนก.ค.2559 ขณะนี้มีแพะจำนวน 38 ตัว แพะพ่อพันธุ์ 2 ตัว ปลูกหญ้าเนเปียร์เป็นอาหารและหาผัก ใบไม้ ใบกระถินมาให้แพะกินทุกวัน

นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ต้องการให้เกษตรกรมีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้จากทำเกษตร ด้วยการเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงโควากิวจะทำให้เพิ่มมูลค่าให้กับโค จากโคพื้นเมืองธรรมดาจะกลายเป็นโคพันธุ์ดีที่ตลาดต้องการ ขายได้ราคาสูงขึ้น โดยจัดสรรงบประมาณให้ส่วนหนึ่ง ให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำเพิ่มหลักความรู้ทางวิชาการให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง

ส่วนการเลี้ยงแพะจะเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี มีตลาดรองรับ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการบริโภคเนื้อแพะสูง ตัวหนึ่งรับซื้ออยู่ที่ 2,300-2,500 บาท และแพะนั้นใช้เวลาเลี้ยงสั้น ประมาณ 5-8 เดือนก็โตเต็มวัย สืบพันธุ์ ขยายพันธุ์ได้หลายตัว เลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนโรค ซึ่งจะจัดหาแพะแม่พันธุ์ให้เกษตรกรอีก 21 ตัว โดยเกษตรกรต้องทำโรงเรือนเพิ่มเติมและบริหารจัดการพื้นที่ปลูกหญ้าเป็นอาหารให้เพียงพอ

ขณะที่นายนัฐพงษ์ เทศนา ผู้ใหญ่บ้านใหม่วังไฮ และประธานกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ กล่าวว่า ได้ศึกษาข้อมูลว่าการเลี้ยงแพะนั้นสามารถทำรายได้ดี เลี้ยงง่าย โตเร็ว จึงชักชวนเพื่อนบ้านเลี้ยง โดยได้รับการสนับสนุนที่ดีจากจังหวัดหนองคาย แม้ว่าขณะนี้จะเลี้ยงไม่มาก แต่ก็มีพ่อค้าชาวลาวมาติดต่อขอซื้ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกษตรกรผลิตให้ไม่ทัน จึงเป็นตลาดที่สดใส คาดว่าการเลี้ยงแพะจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เสริมที่ดีแก่ครอบครัวได้