ชาวอ่าวอุดมสุดทน ฝุ่นแป้งกลางทะเลฟุ้งเข้าฝั่ง กระทบต่อชีวิต ความเป็นอยู่

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านอ่าวอุดมร้อง การขนถ่ายแป้งมันกลางทะเล ห่างฝั่งประมาณ 1 กม.ฟุ้งเข้าบ้านเรือนของชาวบ้าน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ

นายสมพร รักไทย รองประธานชุมชนบ้านอ่าวอุดม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านอ่าวอุดม กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการขนถ่ายสินค้าด้านการเกษตร คือ แป้งมันสำปะหลัง บริเวณท่าเทียบเรือฟิวเจอร์พอร์ต ซึ่งอยู่กลางทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร

แป้งมันสำปะหลังที่ขนถ่ายปลิวเข้าสู่ฝั่ง สร้างปัญหา และผลกระทบต่อชาวบ้านอ่าวอุดม ทำให้บ้านเรือนเต็มไปด้วยฝุ่นแป้งมัน เสื้อผ้าที่ซักตากไว้ก็มีคราบของแป้งมันเกาะติดอยู่ ได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยว นอกจากนั้น ชาวบ้าน หรือเด็กๆ ที่แพ้อากาศก็จะเป็นโรคผดผื่นตามร่างกาย ในช่วงนี้เป็นหน้าลมหนาว โดยลมจะพัดจากทะเลเข้าสู่ฝั่ง ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบเต็มๆ

ด้าน นายสนั่น ชะเอม เจ้าของร้านอาหารเฒ่าทะเลอ่าวอุดม กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นแป้งมันสำปะหลัง สร้างความเดือดร้อนต่อชาวบ้าน และเด็กๆ ในชุมชนบ้านอ่าวอุดมในขณะนี้ เนื่องจากฝุ่นละอองของแป้งมันเล็กมาก โดยจะปลิวเข้าไปได้ทุกซอกทุกมุม สร้างปัญหา และผลกระทบเป็นอย่างมาก เช่น บ้านเรือนสกปรกด้วยฝุ่นละออง เสื้อผ้าสกปรก ส่งผลกระทบต่อร่างกายทำให้หายใจติดขัด

การประกอบธุรกิจดังกล่าวชาวบ้านไม่ได้ไปต่อต้าน หรือคัดค้าน แต่เพียงขอให้ผู้ประกอบการอยู่ได้ และชาวบ้านอยู่ได้ เช่น กรณีเมื่อผู้ประกอบการกำลังโหลดแป้งในช่วงที่ลมพัดเข้าสู่ฝั่งก็ขอให้หยุดดำเนินการในช่วงนั้น แต่เมื่อลมพัดออกสู่ทะเลไม่พัดเข้าฝั่งก็ดำเนินการต่อได้

นายสนั่น กล่าวต่อไปว่า ประชาชนอยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าวมาก่อน โดยบริษัทเพิ่งมาประกอบกิจการในภายหลัง ดังนั้น เมื่อมาทำธุรกิจแล้วอย่ามาสร้างปัญหา หรือผลกระทบต่อชาวบ้านโดยหวังแต่ประโยชน์ของบริษัทอย่างเดียวถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะในยุคสมัยนี้การดูแลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้น จึงขอฝากถึงหน่วยงานระดับสูงลงมาดูแลแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย

ด้าน นายสนธิ คชวัฒน์ ประธานคณะทำงานพัฒนาชุมชนสังคมบ้านอ่าวอุดม กล่าวถึงกรณีที่มีชาวบ้านอ่าวอุดมร้องเรียนถึงปัญหาแป้งฝุ่นมันสำปะหลังของท่าเทียบเรือฟิวเจอร์ พอร์ต ที่มีการขนถ่ายสินค้าการเกษตรกลางทะเล โดยแป้งฝุ่นมันสำปะหลังได้ฟุ้งกระจาย และปลิวเข้าสู่บ้านเรือนของประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ยังไม่ได้รับการดูแลแก้ไข และฝุ่นยังฟุ้งกระจายอยู่เช่นนี้ โดยขอให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 13 จ.ชลบุรี เข้ามาดูแลแก้ไข แต่ถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ลดลงคงจะต้องให้ผู้มีอำนาจเข้ามาดำเนินการในทันที

ล่าสุด ได้รับแจ้งว่า ท่าเทียบเรือฟิวเจอร์ พอร์ต กำลังขออนุญาตขยายหน้าท่าออกไปอีก 400 เมตร ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่เพิ่มมากขึ้น แต่ปัจจุบันยังสร้างปัญหาอยู่ในขณะนี้ และหากได้รับอนุญาตก็จะยิ่งเพิ่มปัญหา และผลกระทบมากขึ้น