พิษณุโลก - “น้องจ๋า” สาวเมืองสองแคว ติดคุกโอมาน 4 เดือน ฐานนำยารักษาโรคมีส่วนผสมสารเสพติดเข้าประเทศ กลับถึงบ้านเกิดแล้ว พอเห็นหน้าพ่อแม่ ร่ำไห้โผกอด พร้อมกราบแทบเท้าทันที บอกเหมือนตกนรกทั้งเป็น ย้ำไม่มีที่ไหนดีเท่าบ้านเราอีกแล้ว
รายงานข่าวแจ้งถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือ น.ส.รสสุคนธ์ เนียมกลาง หรือน้องจ๋า อายุ 32 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวที่สนามบิน และนำตัวไปคุมขังคุกโอมานทันที ขณะเดินทางไปหาเพื่อน และทำงานที่โอมาน เนื่องจากเครื่องสแกนตรวจพบยารักษาโรคประจำตัวจำนวนมาก คือ ยากันชัก ยาแก้ปวดไมเกรน ยาแก้คลื่นไส้ ยาคลายเครียด ยานอนหลับ ยาปรับความดันเลือด ซึ่งยาบางตัวมีส่วนผสมของสารตั้งต้นเสพติด
กระทั่ง นางสุนทรี เนียมกลาง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 14 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ได้ขอให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก ประสานงานช่วยเหลือเมื่อ 28 ธ.ค.59 จนสามารถนำตัว น้องจ๋า เดินทางกลับแผ่นดินเกิดเมื่อวานนี้ (27 ม.ค.)
นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ตั้งแต่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจาก นางสุนทรี เนียมกลาง ทางนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้มอบหมายให้ติดตามดูแลช่วยเหลือกรณีนี้เป็นพิเศษ จึงดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เช่น กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตไทยในโอมาน
ในส่วนของเรื่องการพกพายารักษาโรคเข้าประเทศโอมานนั้น ต้องมีเอกสารรับรองจากแพทย์อย่างถูกต้อง แต่ปรากฏว่า น.ส.รสสุคนธ์ เนียมกลาง ไม่ได้นำเอกสารติดตัวไปด้วย จึงถูกควบคุมและไม่สามารถสื่อสารกันรู้เรื่อง ทาง พม. จึงต้องไปขอใบรับรองอย่างถูกต้องจากแพทย์โรงพยาบาลพุทธชินราช พร้อมทั้งแปลเอกสารส่งไปยังสถานทูตไทยในโอมานเพื่อนำเรื่องพิสูจน์ต่อศาล จนสามารถช่วยเหลือกกลับประเทศไทยได้ในที่สุด ก่อนจะนั่งเครื่องบินของสายการบินไทยกลับมาถึงไทยเช้าวันที่ 27 ม.ค. และเดินทางกลับมายัง จ.พิษณุโลก
โดยทันทีที่น้องจ๋า มาถึงสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก ซึ่งมีนางสุนทรี และนายเครือ เนียมกลาง ผู้เป็นพ่อแม่มาเฝ้าคอยอยู่ เมื่อน้องจ๋า เห็นหน้าพ่อกับแม่ถึงกับโผเข้าสวมกอดด้วยความดีใจ และร้องไห้อยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งนำพวงมาลัยดอกมะลิเข้ามาไหว้กราบลงที่เท้าของพ่อกับแม่ ท่ามกลางความยินดีของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย
น.ส.รสสุคนธ์ เนียมกลาง หรือน้องจ๋า กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจ และขอบคุณทุกคนที่คอยให้ความช่วยเหลือจนสามารถรอดพ้นคุกในประเทศโอมาน หลังจากถูกจองจำเป็นเวลากว่า 4 เดือน จนได้กลับประเทศไทยได้ ยืนยันไม่มีที่ไหนดีไปกว่าบ้านเราอีกแล้ว
น้องจ๋า บอกว่า ตั้งแต่ติดคุกที่ประเทศโอมาน ก็เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น รู้สึกทุกข์ใจคุยอะไรกับใครก็ไม่รู้เรื่องเพราะคุยกันคนละภาษา จึงขอฝากถึงทุกคนที่คิดจะเดินทางไปต่างประเทศ ควรศึกษาหาข้อมูลของประเทศที่จะเดินทางไปให้ดีเสียก่อน เพราะถ้าหากเกิดปัญหาขึ้นมาจะยากเกินกว่าแก้ไขได้ หลังจากนี้ไปจะขอใช้ชีวิตอยู่กับพ่อและแม่ที่บ้านเกิด และไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดใกล้บ้านเพื่อให้จิตใจสงบด้วย