xs
xsm
sm
md
lg

สงสารแชร์ว่อน! พรากลูกช้างน้อยจากแม่เดินเร่ในเมืองบุรีรัมย์ วอนรัฐตรวจสอบ-ทรมานสัตว์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แชร์ว่อนโลกโซเชียลควาญช้างนำลูกช้างวัย 2 ปี เศษ เดินเร่ร่อนขายกล้วย อ้อย หน้างานกาชาดและตามถนนในเมืองบุรีรัมย์วอนหน่วยงานตรวจสอบช่วยเหลือ วันนี้ ( 27ม.ค.)
บุรีรัมย์ - แชร์ว่อนโลกโซเชียลฯ ควาญช้างนำลูกช้างวัย 2 ปีเศษ เดินเร่ร่อนขายกล้วยอ้อย หน้างานกาชาดและตามถนนในเมืองบุรีรัมย์วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบช่วยเหลือเข้าข่ายทรมานสัตว์ ระบุลูกช้างถูกพรากจากแม่ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ขณะแม่ค้าเผยไม่เห็นด้วยที่นำช้างมาเดินเร่ร่อนไม่ว่าจะตัวเล็กหรือใหญ่

วันนี้ (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้นำภาพที่ควาญช้างนำลูกช้างมาเดินเร่ร่อนขายกล้วย อ้อย อยู่บริเวณหน้างานกาชาดจังหวัดบุรีรัมย์และตามถนนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โพสต์ในโลกโซเชียลมีเดียพร้อมระบุด้วยว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายทรมานสัตว์หรือไม่ และได้รับความสนใจจากชาวโลกออนไลน์พากันเข้าไปแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ขับรถตระเวนตรวจสอบตามที่มีการโพส์ตในโลกโซเชียลมีเดีย พบมีควาญช้างนำลูกช้างอายุประมาณ 2 ปี เดินเร่ร่อนขายกล้วย อ้อย ตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จริง แต่เมื่อพยายามจะบันทึกภาพและสอบถามถึงเหตุผลที่นำลูกช้างมาเดินเร่ร่อน ควาญช้างไม่ให้ข้อมูลใดๆ พร้อมพยายามพาช้างเดินเลี่ยงหนี

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่โพสต์แชร์ภาพดังกล่าว ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ช้างเชือกดังกล่าวมีอายุประมาณ 2 ปีเศษ ชื่อ “พลายมหาเศรษฐี” ถูกพรากจากแม่มาตั้งแต่ 6 เดือน เนื่องจากเจ้าของขายตั้งแต่ยังเล็ก กระทั่งมาพบควาญช้างนำมาเดินเร่ร่อนขายกล้วย อ้อย ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ คาดว่าสาเหตุที่นำลูกช้างมาเดินเร่ขายผลไม้แทนช้างตัวใหญ่ เพราะต้องการเรียกร้องความสงสารจากผู้คนที่พบเห็นให้ซื้ออาหารเลี้ยงช้าง จึงได้ฝากให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง
และช่วยเหลือลูกช้างตัวดังกล่าว

ด้าน น.ส.ทิพาพร ชัยวิทูอนุกุล แม่ค้าขายขนมหวานรายหนึ่งกล่าวว่า เห็นควาญนำลูกช้างตัวดังกล่าวมาเดินเร่ร่อนบ่อยครั้ง ซึ่งส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะนำช้างมาเดินเร่ร่อนในลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกช้างหรือช้างตัวใหญ่ หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เพราะมองว่าเป็นการทรมานสัตว์ ความจริงแล้วช้างควรจะได้ใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติมากกว่ามาเดินเร่ในเมืองแบบนี้ และนอกจากจะเข้าข่ายทรมานสัตว์แล้วยังเสี่ยงเป็นอันตรายทั้งกับคนและตัวช้างเองด้วย

ดังนั้น ควรจะนำช้างไปเข้าร่วมโครงการแก้ปัญหานำช้างออกเร่ร่อนของหน่วยงานรัฐหรือภาคเอกชนที่ดำเนินการ เพื่อดูแลอย่างเป็นระบบจะได้ไม่ต้องนำช้างมาเดินเร่ร่อนแบบนี้ รวมทั้งได้ฝากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีก


กำลังโหลดความคิดเห็น