xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอยพ่อ! หนุ่มสุรินทร์ทิ้งธุรกิจเมือง กลับบ้านทำเกษตรพอเพียง-เลี้ยงเป็ดขายเดือนละแสน(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายไผ่ทอง หรือ แจ๊ค คำเอี่ยม หนุ่มเมืองช้าง วัย  31 ปี  ทิ้งกิจการคาร์แคร์ กลับบ้านใช้ชีวิตแบบวิถีเกษตรพอเพียง เดินตามรอย“พ่อหลวง ร.๙” เลี้ยงเป็ดไข่ ขายทั้งแม่พันธุ์ ลูกพันธุ์ยันไข่ สร้างรายได้เดือนละแสนบาท วันนี้ ( 26 ม.ค.)
สุรินทร์ - หนุ่มเมืองช้างวัย 31 ปี เบื่อหน่ายธุรกิจการแข่งขันในเมือง ทิ้งกิจการคาร์แคร์ กลับมาใช้ชีวิตแบบวิถีเกษตรพอเพียง เดินตามรอย “พ่อหลวง ร.๙” เลี้ยงเป็ดไข่ ขายทั้งแม่พันธุ์ ลูกพันธุ์ ยันไข่ ทั้งเลี้ยงหมูป่า วัว ปลูกพืชผักแบบผสมผสานไร้สารเคมีในพื้นที่ว่าง จนสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนเดือนละนับแสน พร้อมทำตลาดออนไลน์เสริม และเป็นแบบอย่างเปิดให้ศึกษาดูงานตลอดเวลา



วันนี้ (26 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบกับเกษตรกรหนุ่มไฟแรง วัย 31 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ทราบชื่อคือ นายไผ่ทอง หรือ แจ๊ค คำเอี่ยม อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.3 บ.ช้างลง ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่เบื่อหน่ายกับธุรกิจการแข่งขันในสังคมเมือง ตัดสินใจทิ้งกิจการคาร์แคร์ และขายเครื่องกรองน้ำ ผันตัวเองมาใช้ชีวิตแบบวิถีเกษตรพอเพียง เพื่อเดินตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ ด้วยการมาหันประกอบอาชีพ เลี้ยงเป็ดไข่ ขายไข่ ก่อนต่อยอดด้วยการเพาะแม่พันธุ์เป็ดไข่ และลูกเป็ดขาย รวมทั้งเลี้ยงหมูป่า เลี้ยงวัว ปลูกพืชผัก ทำนาแบบผสมผสานและปลอดสารเคมี ในพื้นที่ว่างของตนเองที่บ้านเกิด

จนสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนเดือนละนับแสนบาท โดยเฉพาะเป็ดไข่ ที่เริ่มเลี้ยงมากว่า 1 ปี สามารถขายได้ทั้ง ไข่เป็ด และแม่พันธุ์เป็ดไข่ เดือนละไม่ต่ำกว่า 6 - 7 หมื่นบาท พร้อมเตรียมขยายพื้นที่เลี้ยงเป็ดไข่อีก 15 ไร่ เพื่อเพิ่มปริมาณเป็ดให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ที่ให้ความสนใจสั่งซื้อแม่พันธุ์เป็ดไข่ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งลูกค้าเกษตรกรในพื้นที่ จ.สุรินทร์ และหลายจังหวัดในภาคอีสาน ที่สั่งซื้อเข้ามาแทบไม่พอกับความต้องการ หลังจากทำการตลาดทางออนไลน์ ประกาศขายบนเฟซบุ๊กส่วนตัว และกลุ่มเพจเฟซบุ๊กต่างๆ เสริมด้วย

นายไผ่ทอง หรือ แจ๊ค คำเอี่ยม หนุ่มเลี้ยงเป็ดไข่ เล่าว่า เดิมทำธุรกิจคาร์แคร์ และขายเครื่องกรองน้ำ หลังจากใช้ชีวิตนักธุรกิจในเมือง จนเริ่มเบื่องานที่ต้องแข่งขันทางการตลาดอยู่ตลอดเวลา จึงอยากออกมาใช้ชีวิตแบบเกษตรกรตามวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเดินตามรอยในหลวง รัชกาลที่ ๙ จึงหันมาเลี้ยงเป็ดดู ประกอบกับพ่อของตนชอบดื่มเหล้า หรือติดเหล้า เลยอยากหากิจกรรมให้พ่อได้ช่วยทำ และใช้เวลาว่างหันมาเลี้ยงเป็ด เลี้ยงหมูป่า เลี้ยงวัว และปลูกผักผสมผสาน จะได้ลดเรื่องการดื่มเหล้าลงด้วย

โดยเริ่มจากเลี้ยงวัว หมูป่า และหาเป็ดไข่มาเลี้ยงดู เพราะหมู่บ้านเราหาไข่กินได้ยาก ราคาแพง จึงสั่งพันธุ์เป็ดไข่มาเลี้ยง 500 ตัว หลังจากผลการตอบรับมีมากขึ้น จึงสั่งมาเลี้ยงเพิ่มเป็น 1,000 ตัว สำหรับอาหารเป็ดนั้น ใช้รำวันละ 4 กระสอบๆ ละ 120 - 125 บาท หรือกิโลกรัมละ 5 บาท ผสมกับอาหารหมักทำเอง ซึ่งใช้ต้นกล้วยสับหมักกับกากน้ำตาล เป็นการประหยัดต้นทุน และต้นกล้วยจะทำให้ไข่แดง มีสีแดงมากขึ้น

ส่วนผลผลิตสามารถเก็บไข่ขายได้ทุกวัน โดยที่ไม่ต้องไปวิ่งหาลูกค้า เพราะมีคนมารับซื้อถึงที่ นอกจากนี้ ชาวบ้านที่ต้องการเลี้ยงเป็ดไว้กินไข่เอง ก็มาขอซื้อแม่พันธุ์ไปคนละ 5 - 10 ตัว ตนก็แบ่งขายให้ไปเลี้ยง เพื่อให้ลูกหลานเขามีไข่ไว้กินไปโรงเรียน ซึ่งเราพยายามทำให้คนอื่นมองเห็นถึงประโยชน์

“บางคนมองว่า ผมบ้า แต่อยากให้มองกลับกัน คือ สังคมเกษตรยุคสมัยก่อนไม่มีอะไร เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ไว้เก็บไข่กินในครัวเรือน ก็สามารถอยู่ได้แล้ว และไม่เป็นหนี้สิน พูดง่ายๆ กำลังทำตามรอยของพ่อหลวง” นายไผ่ทอง กล่าว

นายไผ่ทอง เล่าต่อว่า ทุกวันนี้กระแสตอบรับดีมาก มีคนเริ่มเลี้ยงตาม มาขอซื้อแม่พันธุ์ ซื้อลูกเป็ด ตนจึงขยายพื้นที่เลี้ยงเพิ่มอีกจำนวน 3,000 ตัว บนพื้นที่ 15 ไร่ เพราะอยากทำให้เป็นตัวอย่าง ให้ประชาชนทั่วไปมาศึกษาดูงาน การทำเกษตรแบบผสมผสานและไร้สารเคมี ทั้งปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ และปลูกข้าวไร้สารเคมี

การเลี้ยงเป็ดนั้น ง่ายไม่ยุ่งยาก ให้อาหารวันละ 2 เวลา เช้ากับเที่ยง ตอนบ่ายปล่อยไล่ทุ่ง ให้หากินตามทุ่งนาต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงหลังเก็บเกี่ยว พอถึงเวลา 5 โมงเย็น เป็ดจะเดินเข้าเล้าเอง แค่แบ่งพื้นที่ล้อมตาขายไว้ และขุดร่องน้ำ หรือสระให้เป็ดไว้ลงเล่นด้วย

ส่วนตลาดและลูกค้า ตนลงขายในเพจ เฟซบุ๊กต่างๆ มีลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก ทั้งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ และจากต่างจังหวัด รายละ 500 - 200 ตัว เราก็จัดส่งให้และมีออเดอร์ทุกวัน ซึ่งลูกเป็ดนั้น มีโรงฟักขนาดใหญ่ อยู่ที่ จ.ลพบุรี และ นครราชสีมา ต้องสั่งให้เขาฟักให้ ก่อนนำลูกเป็ดมาพักเลี้ยงที่ฟาร์มเรา เพื่อขายลูก และเลี้ยงไว้ขายแม่พันธุ์ โดยขายแม่พันธุ์เป็ด 1,000 ตัวๆ ละ 150 บาท จะได้กำไรประมาณ 5 - 6 หมื่นบาท แต่หากเก็บไว้ทั้ง 1,000 ตัว เพื่อเก็บไข่ขาย จะได้ไข่วันละประมาณ 26 แผงๆ ละ 30 ฟอง หรือประมาณ 780 - 900 ฟอง ขายแผงละ 120 บาท จะมีรายได้เฉพาะขายไข่เฉลี่ยวันละ 3,000 - 4,000 บาทขึ้นไป

รายได้ขนาดนี้หากเราไม่ฟุ่มเฟือยเกินตัว สามารถอยู่ได้อย่างสบาย ในจำนวนการเลี้ยงเป็ด 1,000 ตัว เดือนหนึ่งสร้างเงินให้หลักแสนบาท ซึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ได้กำไรอย่างน้อยเดือนละ 5 - 6 หมื่นบาท

สำหรับราคาขายแม่พันธุ์เป็ดพร้อมไข่ อายุ 7 - 8 เดือน ตัวละ 150 บาท แม่พันธุ์เป็ดสาว อายุ 5 - 6 เดือน ยังไม่ตกไข่ ตัวละ 175 บาท และ ลูกเป็ดไข่ตัวเมีย อายุ 1 สัปดาห์ ตัวละ 35 บาท เป็ดตัวผู้ตัวละ 7 บาท นอกจากนี้ ยังมีลูกหมูป่า ขายตัวละ 1,500 บาท ส่วนพ่อแม่พันธุ์หมู่ป่าตัวละ 6,500 บาท หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อ หรือมาศึกษาดูงานได้ตลอดเวลา












กำลังโหลดความคิดเห็น