ประจวบคีรีขันธ์ - รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันบนถนนทางหลวงชนบท สายปากน้ำปราณ-บ้านหนองบัว พื้นที่ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (24 ม.ค.) พ.ต.ท.อภิธาน ปานอุทัย พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำปราณ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนทางหลวงชนบท สายปากน้ำปราณ-บ้านหนองบัว ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ .ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากวงเวียน 4 แยกทางลงทะเลปากน้ำปราณ ประมาณ 400 เมตร จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี
ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายนอนอยู่พื้นถนน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยต้องแบ่งกำลังออกให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่มีอาการสาหัสนอนหมดสติ ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีแดง รถใหม่ทะเบียนป้ายแดง ล้มทับร่าง บริเวณศีรษะมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทราบชื่อคือ นายปรีชา จันทร์งาม อายุ 36 ปี ติดกันพบชายอายุ 30-35 ปี อาการสาหัส นอนได้รับบาดเจ็บไม่สามารถลุกขึ้นได้ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทราบชื่อคือ นายสุริยา พันธ์วิชัย อายุ 39 ปี ห่างออกไปเล็กน้อยพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายมีบาดแผลตามร่างกาย แต่สามารถนั่งได้ คือ นายสายันต์ นรดี อายุ 33 ปี ทั้งหมดซ้อนมาคันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ต้องนำส่งโรงพยาบาลปราณบุรี
ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีขาว ทะเบียน ขมจ 821 ล้มอยู่ในพงหญ้าข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายนอนมีอาการชักเกร็ง เจ้าหน้าที่ต้องให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลจนผู้ได้รับบาดเจ็บหายจากการอาการชัก มีบาดแผลตามร่างกาย ทราบชื่อคือ นายไกยสิทธิ์ สามเกลี่ยว อายุ 30 ปี และมีเด็กหญิงอายุประมาณ 1 ปี เป็นลูกสาวได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ทั้งคู่นั่งรถมาด้วยกัน เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์
จากการสอบถามทราบว่า รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุที่มีชาย 3 คน นั่งซ้อนท้ายกันมากำลังจะเข้าไปในตัวเมืองเพื่อไปซื้อของ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทั้ง 3 คน ได้ไปนั่งดื่มสุรากันจนได้ที่ ระหว่างคนขับที่ยังอยู่ในอาการมึนเมาขับรถเข้าไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์อีกคันที่วิ่งอยู่ข้างหน้าจนล้มทั้ง 2 คัน ทำให้ร่างกระแทกกับพื้นถนนอย่างแรงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
