ศูนย์ข่าวศรีราชา - คุยสบายๆ แต่เปิดใจ กับ “สารวัตรยะ” สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ผู้ซึ่งยึดมั่นคำปฏิญาณของนักเรียนเตรียมทหาร และนักเรียนนายร้อยตำรวจ “ข้าจะรักษามรดกของพระองค์ท่านไว้ด้วยชีวิต” ที่ฝังลึกกลางหัวใจ ตั้งแต่สมัยเรียนจนสู่การทำงาน
MGR Online ได้มีโอกาสพูดคุยแนวคิดชีวิต และการทำงานของ พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร หรือ “สารวัตรยะ” สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. หรือสารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยวน้ำดีที่ปฏิบัติงานเพื่อความผาสุกของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนยังเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง “เมืองพัทยา” จนมีผลงานการสืบสวนสอบสวนที่จับต้องได้ หลังเดินทางมารับตำแหน่งเมื่อต้นปี 2558 อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการทำงานที่เข้มข้น และลงลึกรายละเอียดจนนำมาสู่การจับกุมตัวผู้กระผิดต่อทรัพย์สิน และร่างกายนักท่องเที่ยว สมกับคำว่า “ตำรวจผู้บำบัดทุกข์บำรุงสุข” อย่างชัดเจน
พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ศึกษาจบโรงเรียนนักเรียนเตรียมทหาร (นตท.43) จากนั้นได้แยกเหล่า และศึกษาต่อยังโรงเรียนนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.60) ก่อนสำเร็จการศึกษาในปี 2550 ด้วยวัยเด็กที่มีความคิดว่า “อยากจับผู้ร้าย” โดยหลังจากศึกษาจนสำเร็จแล้วชีวิตได้มีโอกาสรับพระราชทานกระบี่ จากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ ความรู้สึกในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นั้นทำตัวเองล่องลอยดุจปุยนุ่น แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่ยังจดจำช่วงเวลาดังกล่าวได้มาจนถึงทุกวันนี้
ในช่วงที่ได้ศึกษาอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายร้อยตำรวจนั้น ทั้งก่อนกลับบ้านหรือเข้าเรียนนักเรียนเตรียมทหาร นักเรียนนายร้อยตำรวจทุกคนจะต้องท่องคำปฏิญาณตนที่ว่า “ข้าจะรักษามรดกของพระองค์ท่านไว้ด้วยชีวิต” ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ถูกปลูกฝังซึมซับเข้าสู่กลางหัวใจทั้งในช่วงขณะเล่าเรียนศึกษา จนมาสู่ชีวิตการทำงาน
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วเคยได้ยิน ได้ฟัง และได้อ่านพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาทของพ่ออยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มาแล้วมากมาย และทุกคำสอนเหล่านั้นเป็นคำพูด คำแนะนำที่ฟังแล้วเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ทุกคำพูดต่างๆ ที่พระองค์ทรงพระเมตตาพระราชทานให้ปวงชนชาวไทยเป็นคำที่ลึกซึ้ง และกินใจ ที่สำคัญคือ สามารถนำมาปฏิบัติใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
สารวัตรยะ เผยต่อว่า ด้วยประโยคปฏิญาณตนที่รุ่นพี่ปลูกฝังให้มา ทำให้ระลึกถึงพระองค์ท่านอยู่ตลอดเวลา แนวทางการทำงานผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของตนเองจึงถือคำปฏิญาณข้างต้นมาโดยตลอด เมื่อก้าวเข้าสู่การทำงานที่แท้จริงตนเองได้คลุกคลีกับรุ่นพี่ในสายงานสืบสวนสอบสวนตั้งแต่สมัยเป็นพนักงานสอบสวน เมื่อมีการปฏิบัติงานจะติดสอยห้อยตามรุ่นพี่ออกไปทำงานด้วย จึงได้เห็นมุมมองการทำงาน และได้เรียนรู้งานแบบใกล้ชิด จึงมองว่างานสืบสวนสอบสวนเป็นงานที่ช่วยบำบัดทุกข์ และบำรุงสุขให้ประชาชนได้แบบรู้สึกได้อย่างชัดเจนด้วยตัวเอง
ในส่วนของความภูมิใจในการทำงานตั้งแต่ตำแหน่งพนักงานสืบสวน รอง สว.สส.สน.โชคชัย จนมาสู่ตำแหน่ง สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.หรือสารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยานั้น มีหลายกรณีคดีความที่ทำแล้วมีผลสำเร็จ สามารถช่วยเหลือ หรือแก้ปัญหาให้ประชาชน หรือนักท่องเที่ยวได้ ก็รู้สึกดีใจที่อย่างน้อยได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่บุคคลที่ได้รับความเดือดร้อนจากคนร้าย หรือมิจฉาชีพ
จึงจะเห็นได้ว่าแทบทุกปฏิบัติการ สารวัตรยะ จะลงพื้นที่ทำงานร่วมกับลูกน้อง เราลงไปหน้างานด้วย เพื่อไปเห็นปัญหาอุปสรรค และคอยแนะนำแนวทางให้ลูกน้องจากประสบการณ์ของตัวเองที่ผ่านมา อันจะช่วยให้งานผ่านพ้นไปได้ แม้ไม่ดีที่สุด แต่เราก็ได้ทำเต็มที่ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ยึดมั่นมาตลอดการทำงาน
