ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยความคืบหน้าการอาคาร "ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะยาว" (Long Term Care) คาดกลางปี 60 การก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.วัฒนา นาวาเจริญ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก เปิดเผยถึงความคืบหน้า การก่อสร้างอาคารศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะยาว(Long Term Care)บนพื้นที่ 66 ไร่ บริเวณหมู่บ้านท่าใหม่อิ ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าขณะนี้การก่อสร้างตัวอาคารแล้วเสร็จกว่า98% และอยู่ในระหว่างการวางระบบไฟฟ้า และการออกแบบภายใน โดยจัดให้มีรูปแบบเป็นอาคารขนาด 4 ชั้น จำนวน 3 อาคาร ประกอบด้วย อาคาร A, อาคาร B และอาคาร C และจัดให้มี ห้องตรวจสุขภาพ ห้องกายภาพบำบัด ห้องรับประทานอาหาร ห้องสันทนาการ ห้องพัก จำนวน 64 ห้อง มีเตียงผู้ป่วยรวมทั้งหมด 128 เตียง มีพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารประมาณ 6,055 ตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2560
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับอาคารผู้สูงอายุแห่งนี้ เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะมีศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยสูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือที่เราเรียกกันว่า”ผู้ป่วยติดเตียง” ซึ่งปัญหาของผู้ป่วยดังกล่าวนอกจากจะกระทบกับผู้ป่วยโดยตรงแล้ว การที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ย่อมเป็นภาระกับลูกหลานที่ต้องดูแล ซึ่งมีครอบครัวเป็นจำนวนมากที่ลูกหลานอยู่ในวัยทำงาน ไม่สะดวกที่จะดูแลผู้ป่วยด้วยตัวเองและไม่สะดวกในการที่จะต้องพาผู้สูงอายุไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล หรือคลินิกทั่วๆไปเป็นระยะๆ ซึ่งอาคารแห่งนี้จะรองรับปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุส่งผลต่อนโยบายและยุทธศาสตร์ทางด้านการแพทย์การสาธารณสุข เศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดสร้างอาคารศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะยาว(Long Term Care)ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบครบวงจร ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ ได้เตรียมความพร้อม โดยมีการเชื่อมโยงเครือข่ายการบริการระหว่างโรงพยาบาลมหาราชราชนครเชียงใหม่ ศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะยาว ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งการรักษาพยาบาล เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย สังคมและจิตใจ และในขณะเดียวกัน ยังสามารถแบ่งเบาภาระบุตรหลานของผู้สูงอายุได้ส่วนหนึ่ง ตลอดจนเป็นแหล่งค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวให้มีคุณภาพมากขึ้นต่อไป