ลำปาง - แกนนำเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ วัย 71 ปี สิ้นลมไปอีกรายแล้ว หลังได้รับผลกระทบจากมลพิษในอดีต จนป่วย และแบกถังออกซิเจนตระเวนต่อสู้เรียกร้องมานานกว่า 20 ปี
วันนี้ (21 ม.ค.) นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มผู้ป่วยแม่เมาะ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่เคยได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ต่างช่วยกันตระเตรียมบ้าน และสถานที่ ภายในหมู่บ้านม่อนหินฟู ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ
เพื่อเตรียมประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพให้กับนายปั๋นแก้ว อู่เงิน อายุ 71 ปี รองประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ หนึ่งในชาวบ้านที่ร่วมต่อสู้เรียกร้องกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มานาน เพื่อให้ กฟผ.เยี่ยวยาช่วยเหลือกลุ่มชาวบ้านผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโรงไฟฟ้าของ กฟผ.แม่เมาะ
ซึ่งนายปั๋นแก้ว ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจมานาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมลพิษที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแม่เมาะในอดีต จนต้องใช้ถังออกซิเจน และหน้ากากออกซิเจน เพื่อช่วยหายใจอยู่กับบ้านมานาน ก่อนจะเสียชีวิตลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลแม่เมาะ อ.แม่เมาะ เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.เศษที่ผ่านมา ท่ามกลางความเสียใจของญาติ และกลุ่มสมาชิกผู้ป่วยแม่เมาะ ที่เห็นกลุ่มผู้ป่วยที่ร่วมต่อสู้กันมาทยอยเสียชีวิตลงทีละคน หลังจากทนต่อความทรมาน และอาการเจ็บป่วยมานาน
นางมะลิวรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านที่เป็นกลุ่มผู้ป่วยจริงๆ ทยอยล้มตายลงไปทีละคน จากอาการป่วย ที่เป็นผลกระทบโดยตรงจากการดำเนินงานโรงไฟฟ้าแม่เมาะในอดีต สำหรับลุงปั๋นแก้ว ถือว่าผ่านมรสุมชีวิต-ต่อสู้เรียกร้องกับ กฟผ.มานานมาก และยืนอยู่กับชาวบ้านคนอื่นๆ มาอย่างต่อเนื่อง
แม้ในช่วงที่ลุงปั๋นแก้ว ป่วยอยู่ ก็เดินทางไปเรียกร้องกับนายกรัฐมนตรี, รัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ ละยุคสมัยทุกครั้ง และเป็นการเดินทางเรียกร้องที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เพราะลุงปั๋นแก้ว ต้องแบกถังออกซิเจนไปด้วย เพื่อใช้ช่วยหายใจในการเดินทางข้ามจังหวัด นับว่าลุงปั๋นแก้วทรมาน และเหนื่อยมามากแล้ว กระทั่งจบชีวิตลงในวันนี้
ในอดีต ลุงปั๋นแก้ว คือ คนขับรถรับจ้างรับส่งผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจให้ กฟผ.แม่เมาะ ทั้งที่ตัวของลุง พี่สะใภ้ของลุง พี่ชายของลุง และเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ก็เจ็บป่วยด้วยเช่นกัน จากการที่ต้องอยู่กับความเจ็บป่วย ลุงปั๋นแก้ว และครอบครัว รวมถึงเพื่อนบ้าน จึงลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องให้ กฟผ.ชดเชย และเยียวยา
นางมะลิวรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมาลุงปั๋นแก้ว ได้ออกยื่นหนังสือ ชุมนุม และไปประท้วงในที่ต่าง ๆ ด้วยคิดว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่ก็ไร้ผล จนในที่สุดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ร่วมกับเพื่อนๆ หลักฐานใบรับรองแพทย์ที่ได้มาจากคลีนิคอาชีวเวชศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี ร่วมกับเพื่อน และครอบครัวของพี่ชาย ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อหวังขอความเมตตาจากศาลเป็นที่พึ่งสุดท้าย”
นางมะลิวรรณ ยังเล่าว่า ระหว่างการพิจารณาคดี พี่ชาย และพี่สะใภ้ รวมทั้งเพื่อนๆของลุงปั๋นแก้ว อีก 12 คน ถูกหลอกให้ถอนคดีออกจากศาลปกครองโดยไม่ได้อะไรเลยแม้แต่บาทเดียว แต่ตัวลุง และเพื่อนที่เหลืออยู่ได้ต่อสู้คดีจนศาลปกครองชั้นต้นมีพิพากษาให้เพื่อนๆของลุงกว่าครึ่ง ได้รับค่าชดเชยเยียวยาจาก กฟผ.คนละ 246,900 บาท
แต่ศาลปกครองชั้นต้นมีความเห็นว่า ใบรับรองแพทย์ของลุงปั๋นแก้ว และเพื่อนๆอีกจำนวนหนึ่ง ขาดอายุความ เพราะลุงฟ้องหลัง 1 ปีที่ได้ไปตรวจรักษา ทำให้ลุงยื่นอุทรณ์ต่อสู้คดี จนในที่สุดศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ลุงมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยเยียวยาเหมือนเช่นเพื่อนคนอื่นๆ เป็นจำนวนเงิน 246,900 บาท พร้อมดอกเบี้ย นับจากวันที่ลุงปั๋นแก้ว ต่อสู้จนชนะ คือ จากปี 2535 - 2557 รวมระยะเวลานานถึง 22 ปี เป็นชัยชนะบนความเจ็บปวด และความสูญเสียของชีวิตลุงปั๋นแก้ว