วอดทั้งหลัง! เพลิงเผาบ้านสองตายายบุรีรัมย์ก่อนลามไหม้บ้านน้องชาย-วอนช่วยเหลือ(ชมคลิป)

บุรีรัมย์-ไฟไหม้บ้านตาป่วยอัมพฤกษ์ยายชราที่บุรีรัมย์ ตะโกนให้ชาวบ้านช่วยดับแต่เพลิงลุกโหมรุนแรงไม่ถึง 10 นาทีเผาวอดทั้งหลัง ก่อนลามไหม้บ้านน้องชายเสียหายอีก อบต.ตั้งศูนย์รับบริจาคช่วย 2 ครอบครัว ด้านยายวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ เผยบ้านเรือนทรัพย์สินกระทั่งผ้าไหมที่เก็บเป็นสมบัติถูกเผาวอด



วันนี้ (20 ม.ค.) เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านของนายเดีย วงเวียน อายุ 63 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว และนางสวัสดิ์ วงเวียน อายุ 64 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านบ้านหนองทะลอก ม.4 ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ โดยต้นเพลิงได้ลุกไหม้จากบริเวณชั้น 2 ของบ้าน เบื้องต้นนายเดีย และนางสวัสดิ์ เจ้าของบ้านได้พยายามจะวิ่งขึ้นไปดับไฟแต่ไม่สามารถดับได้ เนื่องจากบริเวณชั้น 2 ที่เป็นจุดต้นเพลิงเป็นไม้เก่าทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วและอย่างรุนแรง ทั้งสองสามีภรรยา จึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านใกล้เคียง

จากนั้นชาวบ้านต่างพากันนำภาชนะใส่น้ำมาช่วยกันดับไฟอย่างโกลาหล แต่ไม่เป็นผลเพราะเปลวไฟได้ลุกโหมอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้ จึงได้โทรศัพท์แจ้ง อบต.ลุมปุ๊ก พร้อมประสานขอความช่วยเหลือไปยัง อบต.สะแกโพรง และเทศบาลต.บ้านบัว เร่งนำรถดับเพลิงมาช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่เมื่อรถดับเพลิงมาถึงจุดเกิดเหตุพบว่าเปลวเพิลงได้ลุกไหม้บ้านของสองสามีภรรยาเสียหายทั้งหลังแล้ว

ทั้งยังได้ลุกลามไปไหม้บ้านของนายสัมฤทธิ์ วงเวียน ซึ่งเป็นน้องชาย ได้รับความเสียหายไปบางส่วนอีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาดับเพลิงนานเกือบ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

หลังจากเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

อย่างไรก็ตามจากการประเมินมูลค่าความเสียหายของบ้านที่ถูกเพลิงไหม้ทั้ง 2 หลัง เบื้องต้นคาดเกือบ 1 ล้านบาท ขณะ อบต.ลุมปุ๊กตั้งศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือ 2 ครอบครัวที่ประสบอัคคีภัยในเบื้องต้น

จากการสอบถามนางสวัสดิ์ วงเวียน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนและสามีอยู่ชั้นล่าง เห็นไฟไหม้อยู่ลุกบริเวณชั้น 2 ของบ้าน ตนพยายามขึ้นไปดับไฟแต่ด้วยอายุที่มากแล้ว ประกอบกับไฟได้โหมไหม้อย่างรวดเร็วจึงตะโกนให้ชาวบ้านใกล้เคียงช่วยเหลือ แต่เพลิงกลับลุกไหม้อย่างรุนแรงจึงไม่สามารถดับได้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ อบต.และเทศบาลใกล้เคียงมาช่วยระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่ไม่ทันเพราะไฟได้ลุกไหม้บ้านและทรัพย์สินเสียหายทั้งหมดแล้ว

หลังเพลิงสงบเข้าไปดูทรัพย์สินว่ามีอะไรเหลือบ้าง พบว่ายังมีเงินที่ตนซ่อนไว้ใต้ที่นอนประมาณ 13,000 บาท ที่เหลืออยู่ก้อนสุดท้าย แต่บ้านและทรัพย์สินอื่นถูกเพลิงเผาเสียหายทั้งหมดไม่มีอะไรเหลือ แม้กระทั่งผ้าไหมที่เก็บสะสมไว้เป็นสมบัติถูกไหม้เสียหายด้วย

จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้มีจิตศรัทธา ช่วยเหลือ เพราะตนกับสามีมีอาชีพทำนา ส่วนลูกหลานก็แยกย้ายไปมีครอบครัวหมดแล้ว

ด้านนายทรงวุฒิ ปะทิรัมย์ นายก อบต.ลุมปุ๊ก กล่าวว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เบื้องต้นทาง อบต.ลุมปุ๊ก ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย พร้อมตั้งเต็นท์รับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือทั้ง 2 ครอบครัวที่ประสบภัยดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นได้มีคณะครู อาจารย์ ชาวบ้านใกล้เคียง รวมถึงผู้มีจิตศรัทธาที่ทราบข่าว ได้นำเงิน สิ่งของเครื่องใช้จำเป็นมาบริจาคช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์อีกครั้ง