ผู้จัดการออนไลน์ - “บมจ.ธนาคารกรุงไทย ”ยืนยัน ทายาทเจ้าของโรงสีเข้าใจผิดเรื่องเงินในบัญชีหาย เงินล่องหน ระบุ ก่อนเสียชีวิต เจ้าของโรงสี ได้ ถอนบัญชีเงินฝาก ทั้ง 4 บัญชีไปหมดแล้ว และทั้งศาลฎีกาและศาลแพ่งได้พิจารณายกฟ้อง เพราะธนาคารสามารถพิสูจน์ได้ว่า ลูกค้าไม่มีเงินฝาก
จากกรณีที่มีการเสนอข่าว เจ้าของโรงสีข้าวที่ปทุมธานี โวยจำนำบัญชีกับธนาคารกรุงไทย พบเงินหายกว่า 500 ล้านบาท โดยได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านศูนย์บริการประชาชน วันนี้( 19 ม.ค.)
บมจ.ธนาคารกรุงไทย โดยฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ ได้มีหนังสือชี้แจงในกรณีที่เกิดขึ้น ว่า นายภิญโญ ภิญโญชีพ และ นายสง่า คุ้มบาง เคยเป็นลูกค้าสินเชื่อธนาคารกรุงไทย สาขาปทุมธานี และได้เคยใช้บัญชีเงินฝากประจำ ซึ่งเป็นของนายสง่า คุ้มบาง ทั้ง 4 บัญชีที่กล่าวอ้าง มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงินสินเชื่อกับธนาคาร และก่อนที่นายสง่า คุ้มบาง จะเสียชีวิต ได้ถอนบัญชีเงินฝากดังกล่าวไปแล้ว
ต่อมาลูกค้าได้ผิดนัดชำระหนี้ ธนาคารได้ฟ้องเรียกหนี้คืน ซึ่งหนี้ดังกล่าวได้ถูกโอนไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิทแล้ว แต่ทายาทคิดว่า ยังมีบัญชีเงินฝากตามที่กล่าวอ้างอยู่ และได้ฟ้องแพ่งเรียกเงินคืนจากธนาคารทุนทรัพย์ 5,200 ล้านบาท เมื่อปี 2546
ศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้อง ในปี 2552 ธนาคารไม่ต้องชดใช้ เนื่องจากธนาคารสามารถพิสูจน์ได้ว่า ลูกค้าไม่มีเงินฝากในบัญชีกับธนาคารจริง ตามที่กล่าวอ้างไว้ ต่อมาในปี 2554 ลูกค้าได้ฟ้องธนาคารคดีอาญา ข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งธนาคารได้พิสูจน์ว่า ลูกค้าไม่มีเงินฝากในบัญชีดังกล่าวจริง ตามที่กล่าวอ้างไว้ ศาลอาญาได้ยกฟ้อง ในปี 2556 เช่นเดียวกัน โดยทั้ง 2 คดีเสร็จสิ้นแล้ว