ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประธานชมรมร้านทอง จ.ชลบุรี ชี้พฤติกรรมการบริโภคทองคำของประชาชน โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนในพื้นที่เริ่มเปลี่ยน จากอดีตที่นิยมซื้อเพื่อสวมใส่ มาเป็นสะสมทองแท่งเพื่อเก็งกำไร เพราะหวั่นความไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์จากเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นรายวัน ขณะเดียวกัน ยังเชื่อมั่นว่า “ทองคำ” ยังเป็นสินค้าที่น่าลงทุน ด้านร้านค้าทองก็ปรับตัวนำทองแท่งขนาดเล็ก ตั้งแต่ 25-50 สตางค์ออกขาย รับนักลงทุนรายย่อย และกลุ่มพนักงานโรงงาน
วันนี้ (19 ม.ค.) นายประกิต เตคุณาทร ประธานชมรมร้านทองจังหวัดชลบุรี เผยถึงภาวะการค้าทองคำในจังหวัดชลบุรี ช่วงปี 2559 ที่ผ่านมาว่า ซบเซาลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ จากปัจจัยทางเศรษฐกิจ และการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทำให้การค้าทองคำในประเทศหยุดชะงักจากความเศร้าโศกของชาวไทย และการงดจัดกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ ที่นิยมใช้ทองคำเป็นของรางวัล แต่จังหวัดชลบุรี ก็ยังโชคดีที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และโรงงานในพื้นที่จำนวนมาก จึงทำให้การซื้อขายทองคำในช่วงปลายปีกลับมาคึกจากการที่โรงงานต่างๆ เริ่มกลับมาซื้อทองเพื่อใช้เป็นของรางวัลให้แก่พนักงาน เช่นเดียวกับราคาสินค้าทางการเกษตรในช่วงปลายปีก็ขยับราคาขึ้น ยิ่งเป็นปัจจัยเสริมให้ตลาดยังคงไปได้
“เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เป็นเมืองเศรษฐกิจ แม้ภาวะการซื้อขายทองคำจะซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจทั้งใน และต่างประเทศ แต่ตลาดค้าทองคำของจังหวัดชลบุรี ในปี 2559 ก็ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่รับได้ ยิ่งเมื่อเทียบกับผู้ค้าทองในจังหวัดอื่นๆ แล้ว ชลบุรี ตลาดถือว่าไปได้ดีกว่า เพราะคนยังมีกำลังซื้อ และคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน และพนักงานโรงงานก็เริ่มหันมาสะสมทองแท่งเพื่อเก็งกำไรมากกว่าซื้อทองคำรูปพรรณเมื่อสวมใสเหมือนในอดีต เพราะกลัวว่าจะเสี่ยงต่อการถูกจี้ หรือถูกทำร้าย”
ด้านร้านค้าทองในจังหวัดชลบุรี ก็เริ่มปรับตัวรับพฤติกรรมการบริโภคทองคำของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งแรงงานต่างถิ่นที่เปลี่ยนไป ด้วยการนำทองแท่งขนาดเล็กตั้งแต่ 25-50 สตางค์ออกขาย เพื่อให้ผู้มีรายได้ไม่มากนักได้เก็บสะสม เพราะประชาชนยังมีความเชื่อว่า ทองคำ คือสินค้าที่น่าลงทุน
โดยประธานชมรมร้านทองจังหวัดชลบุรี เชื่ออีกว่า ทองคำที่ประชาชนซื้อสะสมตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจะถูกนำออกขายอีกครั้งในเดือนเมษายน และพฤษภาคมที่จะถึงนี้ เพราะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ และช่วงเปิดเทอม จึงต้องจับตาดูว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับขึ้นมากน้อยเพียงใด