อุบลราชธานี - เชื่อเขาเลย! อดีตทหาร 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทดลองนำผลสละมาปลูกในภาคอีสาน ปรากฏให้ผลผลิตตอบแทนดี ลาออกมาเป็นชาวสวนเต็มตัว ทำรายได้ปีละกว่า 5 แสนบาท
“สละอินโด” หรือ “สละน้ำผึ้ง” เป็นผลไม้ประจำถิ่นจากภาคใต้ของประเทศไทย อดีตทหารที่ลงไปรักษาความสงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อหลายปีก่อนไปค้นพบความมหัศจรรย์ของผลไม้ชนิดนี้ คือ ปลูกครั้งเดียวให้ผล ให้กล้าติดต่อกันนานหลายปี ที่สำคัญมีความทนทานต่อศัตรูพืชหลากชนิด ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีกำจัด หรือใช้สารเคมีเร่งความเจริญเติบโต เพียงให้ปุ๋ยคอก และรดน้ำให้ชุ่มก็เจริญเติบโตได้ดี และสร้างรายได้อย่างงดงาม
“สวนสละ” แห่งนี้ ตั้งอยู่บ้านเกษตรพัฒนา ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นของ ร.ต.สิทธิพงษ์ วงศ์ศิริ หรือหมวดแป อายุ 56 ปี อดีตทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 กองพันทหารราบที่ 3 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งลาออกจากราชการมาเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว หลังได้ทดลองปลูกแล้วได้ผลตอบแทนสูงปีละกว่า 500,000 บาท
ผู้หมวดสิทธิพงษ์ หรือหมวดแป เล่าว่า เมื่อเกือบ 10 ปีก่อนถูกส่งไปปฏิบัติการภาคสนามที่จังหวัดปัตตานี และได้พบกับสละอินโด หรือสละน้ำผึ้ง ผลไม้ประจำถิ่น เมื่อนำมารับประทานให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว รู้สึกถูกปากและคิดว่าจะต้องถูกใจของคนอีสานแน่นอน เมื่ออยู่ปฏิบัติหน้าที่ครบตามกำหนดก็ได้ซื้อต้นกล้าสละติดมือกลับมาประมาณ 30-40 ต้น โดยทดลองเพาะต้นกล้าสละอยู่นาน และสามารถขยายพันธุ์ได้กว่า 2,000 ต้น จึงตัดสินใจลาออกจากราชการมาเป็นชาวสวนปลูกสละเต็มตัว
แต่ปัจจุบันได้ลดปริมาณการปลูกลงเหลือประมาณ 500 ต้น เนื่องจากไม่มีกำลังไปดูแลได้ทั้งหมด ส่วนการปลูกต้นสละนั้น เมื่อสละมีอายุประมาณ 2 ปีก็จะเริ่มให้ผลผลิต โดยแต่ละต้นจะให้น้ำหนักของผลผลิต 10 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมทุกปี และจะให้ผลต่อไปได้นานกว่า 20 ปี
ปัจจุบันราคาขายที่หน้าสวนกิโลกรัมละ 80-100 บาท นอกจากนี้ยังได้จำหน่ายต้นกล้าราคาตามขนาดของอายุ แต่โดยเฉลี่ย 40-80 บาท แต่ต้นอายุเกิน 1 ปี ราคาจะอยู่ประมาณ 500-700 บาท ทำให้ปัจจุบันมีรายได้จากการปลูกสละอินโดขายปีละกว่า 500,000 บาท
หมวดแปยังเล่าถึงวิธีการผสมพันธุ์สละและการดูแลว่า การผสมพันธุ์ก็ไม่ยาก เอาเกสรตัวเมียกับตัวผู้มาผสมกันจะเกิดเป็นหน่อ นำไปปลูกทิ้งระยะห่างประมาณ 3 เมตรต่อต้น และสามารถปลูกแซมในสวนยางพาราหรือสวนผลไม้อื่นๆ ได้ด้วย เพราะสละจะไปอาศัยร่มเงาจากไม้ชนิดไว้บังแดด เนื่องจากต้นสละไม่ชอบแดดแรงมากเกินไป การรดน้ำก็เพียงรดน้ำใช้ชุ่มทุกวัน ก็จะให้ดอกผลดีและแข็งแรงทนต่อโรค
ทั้งนี้ ตนมองว่าสละอินโดจะเป็นผลไม้ที่ตลาดมีความต้องการมาก เพราะนอกจากสามารถกินแบบผลสดแล้วยังนำไปแปรรูปได้หลายชนิด เช่น สละแช่อิ่ม สละอบแห้ง ดอง หรือทำเป็นสละลอยแก้วก็ได้
สำหรับคุณค่าทางโภชนาการของผลสละนั้นมีมากมาย เช่น คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินซี วิตามินบี และปัจจุบันในภาคอีสานมีตนปลูกที่จังหวัดอุบลราชธานี และอีกรายอยู่ที่จังหวัดสกลนคร ถึงหน้าสละให้ผลผลิตไม่ต้องขนไปขาย จะมีพ่อค้าเข้ามารับซื้อถึงในสวน
เกษตรกรท่านใดสนใจ ต้องการเปลี่ยนชีวิตจากการทำนามาทำสวนผลไม้ชนิดนี้ สามารถติดต่อพูดคุยสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-8717-0942 ผู้หมวดสิทธิพงษ์ หรือหมวดแป ยินดีให้คำแนะนำ หรือจะเข้าไปเยี่ยมชมดูวิธีการปลูกที่เฟสสวนสละอินโดอุบลฯ ดูก็ได้เช่นกัน
