บุรีรัมย์ - ชาวนาบ้านหนองหว้า อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 50 ครัวเรือน ปรับพื้นที่นาปลูกข้าวโพดหวานและข้าวโพดข้าวเหนียว พืชอายุสั้นและใช้น้ำน้อย ต้มวางขายเพิงริมถนนเป็นรายได้เสริมหลังฤดูทำนา มีรายได้เฉลี่ยวันละ 1-2 พันบาท เผยหากเป็นช่วงวันหยุดหรือเทศกาลขายดีเพิ่มเท่าตัว
วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านบ้านหนองหว้า ม.10 ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 50 ครัวเรือน ได้ปรับพื้นที่นาหลังเสร็จจากการเก็บเกี่ยวข้าว ลงทุนปลูกข้าวโพดพันธุ์หวานและข้าวโพดข้าวเหนียว ซึ่งเป็นพืชอายุสั้นและใช้น้ำน้อย ใช้ระยะเวลาเพียง 2 เดือนเศษสามารถเก็บผลผลิตได้
จากนั้นนำผลผลิตไปต้มสุกและวางขายสดตามเพิงริมถนนสายคูเมือง-พุทไธสง ให้กับประชาชนที่ขับรถสัญจรผ่านไปมา ในราคาถุงละ 20 บาท 3 ถุง 50 บาท ทั้งขายส่งให้แม่ค้าที่มารับซื้อไปขายต่อตามตลาดในราคากิโลกรัมละ 13 บาทด้วย ซึ่งถือเป็นอาชีพเสริมให้แก่ชาวบ้านได้เป็นอย่างดี
โดยชาวบ้านมีรายได้จากการปลูกข้าวโพดขายเฉลี่ยวันละ 1,000-2,000 บาท ซึ่งแต่ละปีจะสามารถปลูกได้ 2 ครั้ง ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ทำให้ชาวบ้านที่หันมาปลูกข้าวโพดขายหลังฤดูทำนามีรายได้เสริมเฉลี่ยครั้งละ 3-4 หมื่นบาท
นางพวย เจริญยิ่ง และ นายวิชัย ปวงศิริ ชาวบ้านบ้านหนองหว้า บอกว่า หลังเสร็จจากการเก็บเกี่ยวข้าวจะปรับพื้นที่นาปลูกข้าวโพดทั้งสายพันธุ์หวานและข้าวโพดข้าวเหนียวเพราะเป็นพืชอายุสั้นและใช้น้ำน้อย ส่วนน้ำที่หล่อเลี้ยงต้นข้าวโพดอาศัยน้ำจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ บางรายลงทุนเจาะน้ำบาดาล
ส่วนผลผลิตที่ได้จะนำไปขายสดและต้มสุกวางขายตามเพิงริมถนน แต่ละวันจะขายได้เฉลี่ยวันละ 1-2 พันบาท หากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือช่วงเทศกาลจะขายดีเพิ่มขึ้นเท่าตัวเพราะมีคนขับรถผ่านไปมาตลอดทั้งวันจะจอดรถแวะซื้อไปรับประทานและเป็นของฝากด้วย ซึ่งถึงแม้เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 4-5 เดือน แต่เป็นรายได้ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดีไม่ต้องอพยพไปทำงานยังนอกพื้นที่
