จันทบุรี - ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 19 ลงพื้นที่ตรวจสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดจันทบุรี เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ขนส่งให้ตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ และรถโดยสารให้มีความพร้อม หากพบจุดบกพร่องสั่งหยุดเดินรถทันทีจนกว่าจะแก้ไขเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และตัวผู้ขับขี่เอง
วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น.ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดจันทบุรี พล.ต.หทัยเทพ กีรติอังกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 19 ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดจันทบุรี และเน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติการด้านการขนส่งผู้โดยสารต่อเจ้าหน้าที่ขนส่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยมี พ.ต.อ.สุเทพ บุญค้ำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ร่วมรับฟังแนวทาง และหารือแนวปฏิบัติร่วมกัน
สำหรับการเดินทางลงพื้นที่ในวันนี้ เป็นการติดตามความคืบหน้าหลังจากที่เกิดเหตุการณ์รถตู้โดยสารชนกับรถยนต์กระบะ จนมีผู้เสียชีวิตถึง 25 ราย และรถคันที่เกิดเหตุเป็นรถตู้โดยสารของจังหวัดจันทบุรี ซึ่งทางมณฑลทหารบกที่ 19 เคยได้เน้นย้ำถึงความปลอดภัย และให้ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดจันทบุรี ออกตรวจกำชับ อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยผู้โดยสารรถสาธารณะ โดยมีการเข้มงวดกวดขันตรวจความพร้อมของรถ และผู้ขับขี่ให้มีความพร้อมก่อนออกเดินทาง
สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้ พล.ต.หทัยเทพ กีรติอังกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 19 ได้พูดคุย และสอบถามความคิดเห็นของผู้ที่ใช้บริการรถตู้โดยสาร หรือรถโดยสารสาธารณะ เพื่อรับฟังปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง อันเนื่องมาจากรถโดยสาร และผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจความพร้อมของรถโดยสาร ให้มีอุปกรณ์เพื่อใช้ในเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ค้อน ถังดับเพลิง มีเข็มขัดนิรภัยให้ผู้โดยสารทุกที่นั่ง และมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตฉุกเฉิน หากเกิดอุบัติเหตุต่อรถโดยสารสาธารณะ และให้มีการตรวจเช็กสภาพของรถถี่ขึ้น จากเดิมที่เคยตรวจสภาพรถปีละ 2 ครั้ง ให้เป็นปีละ 4 หรือ 5 ครั้ง โดยเฉพาะรถตู้โดยสารที่ในปัจจุบันเป็นรถที่ใช้งานมาก จึงจำเป็นต้องหาแนวทางและวิธีในการตรวจสภาพความพร้อมให้มากขึ้น ส่วนที่เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 19 เคยดำเนินการมาแล้ว คือ พบว่าล้อยางของรถไม่ได้มาตรฐาน ได้มีการสั่งหยุดเดินรถทันทีจนกว่าจะแก้ไข และเมื่อแก้ไขแล้วก็ให้ออกวิ่งได้ตามปกติ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และตัวผู้ขับขี่เอง
ส่วนสิ่งที่คำนึงถึงอีกหนึ่งอย่างที่ต้องหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน คือ ตัวผู้ขับขี่รถ จากการลงพื้นที่และสอบถามทราบว่า ผู้ขับขี่รถจะเป็นผู้ขับขี่รับจ้าง โดยจะได้ค่าแรงเพียงวันละ 500 บาท ซึ่งหากมองตามเวลาทำงานของแรงงานปกติ คือ ใน 1 วัน คนขับรถจะสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารจากจันทบุรีไปกรุงเทพมหานคร ได้แค่เพียงเที่ยวเดียวเท่านั้น และอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่คุ้มทุน ส่วนผู้รับจ้างขับรถเองก็อาจจะไม่มีรายได้เพียงพอสำหรับใช้จ่ายต่อ 1 เดือนด้วย จุดนี้ทางมณฑลทหารบกที่ 19 อาจจะต้องให้ผู้ประกอบการหาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ขับขี่รถ เช่น ทำประกันสังคมให้เพื่อเป็นสวัสดิการ หรือขึ้นค่าแรงเพื่อให้เพียงพอต่อรายจ่าย ทั้งนี้ สำหรับผู้โดยสารหากในการเดินทางหากพบคนขับมีการขับรถหวาดเสียว หรือเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ก็สามารถโทร.แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะ หมายเลข 1584 ได้ทันที