บุรีรัมย์ - กรมที่ดินเต้น! ร่วมที่ดินสาขาลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ที่ดินถูกแจ้งความกล่าวหาว่าร่วมกับพวก หลอกเรียกเงินชาวบ้านกว่า 10 รายร่วมล้าน อ้างสามารถทำ ส.ค.1 เป็นโฉนดที่ดินให้ได้ ยันผิดจริงเอาผิดทางวินัยและ กม. พร้อมเตือน ปชช.การขอออกโฉนดต้องยื่นคำขอและจ่ายค่าธรรมเนียมที่ สนง.เท่านั้น อย่าหลงเชื่อบุคคลแอบอ้างเรียกรับเงิน
วันนี้ (17 ม.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ม.2 บ้านหนองเต็ง และ ม.3 บ้านหนองตะคร้อ ต.เมืองฝ้าย อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหงส์ ให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.วนิดา ปลอดเหตุ นายช่างรังวัดชำนาญงาน เจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมที่ดิน และนายสมประสงค์ แก้วจำปา ที่อ้างตัวเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่ดิน โดยกล่าวหาว่าทั้งสองมีพฤติการณ์ร่วมกันหลอกลวงเรียกรับเงินจากชาวบ้าน โดยอ้างว่าจะสามารถทำ ส.ค.1 เป็นโฉนดที่ดินให้ได้ โดยมีชาวบ้านหลงเชื่อจ่ายเงินให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทั้งเป็นเงินสด และโอนเข้าบัญชีธนาคาร ตั้งแต่รายละหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท กว่า 10 ราย รวมเป็นเงินที่ถูกหลอกเกือบล้านบาท แต่หลังจากจ่ายเงินไปแล้วนานกว่า 2 เดือนไม่มีใครได้ออกโฉนดตามที่ทั้งสองกล่าวอ้าง
ล่าสุดทางกรมที่ดิน และที่ดินสาขาลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยเบื้องต้นคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ลงพื้นที่สอบปากคำชาวบ้านผู้เสียหายแล้ว พร้อมสอบพยานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน
จากการสอบชาวบ้านและลงพื้นที่ตรวจสอบหมู่บ้านพบว่า มีชาวบ้านประสงค์ขอออกโฉนดและมีการรังวัดปักหมุนในที่ดินของชาวบ้านจริง แต่จะมีการหลอกเรียกรับเงินตามที่ชาวบ้านแจ้งความกล่าวหาหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนและหาข้อมูลหลักฐาน หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงทางผู้บังคับบัญชา จะพิจาณาดำเนินการเอาผิดทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวตามระเบียบ ส่วนเรื่องคดีเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายอภิวิชญ์ ปิ่นโต ผู้อำนวยการที่ดินสาขาลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ชี้แจงว่า น.ส.วนิดา ปลอดเหตุ นายช่างรังวัดชำนาญงาน ที่ถูกกล่าวหาไม่ได้มาช่วยราชการที่สาขาลำปลายมาศ แต่มาปฏิบัติงานตามโครงการเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินแบบท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหาการออกโฉนดที่ดินตามคำขอ ส.ค.1 ค้างดำเนินการ ประจำปี 2559 ในท้องที่ อ.ลำปลายมาศ หนองหงส์ และ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ตามคำสั่งของกรมที่ดิน แต่ได้สิ้นสุดการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2559 ที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการสอบข้อเท็จจริงว่ามีการดำเนินการนอกเหนือคำสั่งและเรียกรับเงินจากชาวบ้านจริงหรือไม่อย่างไร
ส่วนกรณีที่นายสมประสงค์กล่าวอ้างว่าเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานนั้นจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริง และแจ้งความเอาผิดตามขั้นตอนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนประชาชนที่มีความประสงค์จะออกโฉนดที่ทำเอกสารสิทธิที่ดินใดๆ ก็ตามจะต้องยื่นคำขอที่สำนักงานที่ดิน และหากมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการจะต้องชำระเงินกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานที่ดินเช่นกัน เพื่อจะได้มีหลักฐานใบเสร็จการรับเงินถูกต้อง ยืนยันว่าที่ดินไม่มีนโยบายเก็บเงินภายนอกแต่อย่างใด จึงแจ้งเตือนชาวบ้านอย่าหลงเชื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว


