ฉะเชิงเทรา - โจรเจ้าเก่าคนเดิมยังคงเดินสายกระชากสร้อยคอทองคำเส้นโต เน้นขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่คนมีสี ล่าสุดแว้นโฉบได้ไปอีก 5 บาท จากคอคนมีสี ที่บริเวณแหล่งผู้คนพลุกพล่านด้านหน้าห้างสรรพสินค้าประจำถิ่นชื่อดัง ก่อนหลบหนีไปได้ลอยนวล ขณะตำรวจเตรียมเปิดกล้องวงจรปิดติดตามไล่ล่าตัวคนร้ายอีกครั้ง
วันนี้ (15 ม.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น. จ.ส.อ.วินัย สีทา ผบ.หมู่ สังกัดกองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 1/40 ถ.ศรีโสธร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.มรรคผล จิณวุฒิ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า ได้ถูกคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 คน รูปร่างท้วม สวมเสื้อลายสกอตสีขาว สวมกางเกงขายาวสีดำ หรือสีครีม และสวมหมวกกันน็อกสีขาว ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีน้ำเงินดำ
โฉบเข้ามาจากทางด้านหลังก่อนที่จะกระชากเอาสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท ไปจากคอของตน โดยเหตุเกิดขึ้นบริเวณหัวมุมทิศตะวันตก ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าตะวันออกคอมเพล็กซ์ หลังก่อเหตุแล้วคนร้ายท่าทางมีอาวุธพกติดตัวมาด้วยได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปภายในซอยเลาะรั้วด้านข้างของตัวห้างฯ บนถนนทางผ่านสนามยิงปืนบีบีกัน ก่อนที่จะไปทะลุสู่ถนนเส้นทางด้านหลังห้าง หลบหนีออกไปยังถนนศุขประยูร (315) ฉะเชิงเทรา-พนัสนิคม บริเวณปากทางเข้าร้านอาหารปูกรรเชียง และหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล
โดยคนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุในขณะที่ตนเองกำลังเผลอ เนื่องจากในเวลานั้นช่วงประมาณ 19.30 น. หลังจากตนได้ทำการปิดร้านค้าที่ตนได้มาเช่าค้าขายของทุกอย่าง 20 บาท อยู่ที่บริเวณอาคารด้านข้างห้างฯ (ตึกการไฟฟ้าเก่า) เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้เดินประคองบุตรชายวัย 14 ปี ซึ่งมีอาการทางสมองที่ไม่สมบูรณ์ (ออทิสติก) เพื่อที่จะพาขึ้นรถกลับบ้าน จึงไม่ทันได้ระวังตัว จนถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
สำหรับทรัพย์สินที่สูญเสียไปนั้นเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท ส่วนพระเลี่ยมทองได้ขาดหลุดตกหล่นลงมาอยู่ภายในเสื้อ รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณกว่า 1 แสนบาท ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นตนได้รับแจ้งจากบรรดาเพื่อนๆ แล้วว่า ในบริเวณห้างฯ นั้นได้มีคนร้ายที่มีลักษณะรูปพรรณที่คล้ายคลึงกันกับคนร้ายที่เคยลงมือก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำในสถานที่คนพลุกพล่านมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวซื่อดังในจังหวัด
และถูกส่งแชร์ภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดต่อกันมาผ่านทางโลกโซเชียล ทั้งในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวแสวงบุญชื่อดังเกี่ยวกับเทวรูป วัดสมานรัตนาราม จำนวน 2 ครั้ง บริเวณหัวตลาดชายน้ำใกล้กับตลาดบ่อบัว 1 ครั้ง รวมทั้งหมด 4 ครั้ง ที่คนร้ายมีลักษณะรูปพรรณที่ใกล้เคียงกัน
โดยคนร้ายรายนี้มักจะเลือกลงมือก่อเหตุกับผู้เสียหายที่สวมใส่สร้อยคอทองคำเส้นโตทั้งหมด เช่น ที่บริเวณวัดสมานฯ นั้น ได้ก่อเหตุขับรถ จยย.กระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท ถึง 2 ครั้ง และกระชากสร้อยจากคอทหารที่รู้จักกันไปอีก 3 บาท ภายในบริเวณตลาดชายน้ำอีกหนึ่งครั้ง และล่าสุด ยังได้มากระชากเอาสร้อยคอน้ำหนัก 5 บาท ไปจากตนอีกหนึ่งเส้น จ.ส.อ.วินัย กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.มรรคผล กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ออกติดตามเก็บภาพของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อที่จะใช้เป็นเบาะแสในการติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากลักษณะตามคำบอกเล่าของผู้เสียหายที่ถูกกระชากสร้อยคอทองคำไปนั้น ส่วนใหญ่ระบุตรงกันว่า คนร้ายมีรูปร่างสูงท้วมตรงกันทั้งหมดในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา นับจากมีนักท่องเที่ยวถูกกระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท ภายในบริเวณวัดโสธรวรารามวรวิหาร จนถึงเหตุการณ์ปัจจุบันล่าสุดรายนี้
อีกทั้งเหตุโจรกระชากสร้อยคอนั้นไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มาเป็นเวลานานนับ 10 ปี แล้ว จึงเชื่อว่าคนร้ายที่ออกอาละวาดลงมือก่อเหตุอยู่ในขณะนี้จึงน่าจะเป็นคนเดียวกันทั้งหมดในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น