ศูนย์ข่าวศรีราชา - โคตรเฟี้ยว! สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยาปิ๊งไอเดียดึงเทคโนโลยีมาปรับใช้ นำร่องผุดเว็บไซต์ฐานข้อมูลตำรวจท่องเที่ยวพัทยาช่วยบันทึกประวัติสาวประเภทสอง หญิงบริการ และบุคคลกลุ่มเสี่ยง ช่วยรื้อค้นข้อมูลป้องกันเหตุอาชกรรมในเมืองท่องเที่ยวเพียงนิ้วสัมผัสหน้าจอสมาร์ทโฟน
พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 หรือที่รู้จักกันในนาม สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ด้วยระบบจัดเก็บข้อมูลตำรวจท่องเที่ยวแบบเอกสารทำให้ยากต่อการสืบค้นและสิ้นเปลืองเวลาในการทำงาน จึงมีแนวความคิดจัดทำฐานข้อมูลตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยาแบบใหม่ที่ทันสมัย และสะดวกต่อการตรวจหาข้อมูลประวัติผู้ที่เคยก่อเหตุในเมืองท่องเที่ยว จึงได้ริเริ่มให้มีการเขียน URL หรือโปรแกรมระบุแหล่งทรัพยากรสากล หรือที่อยู่ของไฟล์ และเว็บไซต์อินเทอร์เน็ตขึ้น
โดยจัดทำเป็นเว็บไซต์ฐานข้อมูลตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา เพื่อบันทึก และรวบรวมประวัติการก่อเหตุของกลุ่มคน 3 จำพวก ไ้ด้แก่ สาวประเภทสอง หญิงบริการ และบุคคลกลุ่มเสี่ยง โดยสามารถเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่ให้มีการหาทางป้องปรามและป้องกันอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในเมืองท่องเที่ยวระดับโลก จนมาถึงปัจจุบันสามารถบันทึกข้อมูลบุคคลทั้ง 3 จำพวกได้แล้วร่วม 1,000 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวแต่ละคนจะมียูสเซอร์เนม และรหัสผ่านเฉพาะบุคคล ทำให้สามารถลงบันทึกประวัติ และตรวจสอบการกระทำความผิดได้อย่างรวดเร็วเพียงใช้นิ้วสัมผัสอุปกรณ์สมาร์ทโฟนส่วนตัว
พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา เผยด้วยว่า การจัดทำฐานข้อมูลตำรวจท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นการนำร่องนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งถือได้ว่ามีประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนเมืองพัทยา มีเป็นจำนวนมาก ทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีที่อาจก่อเหตุก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ที่สำคัญสามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างทันท่วงที และด้วยรูปพรรณสัณฐานตัวจริงกับในข้อมูลของทะเบียนราษฎรที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ แต่หากใช้ฐานข้อมูลอันนี้จะสามารถช่วยในการตรวจหาข้อมูลผู้ก่อเหตุเพื่อให้ผู้เสียหายได้รับทราบในทันที โดยมีรายละเอียดการระบุโซนที่ก่ออาชญากรรม รวมถึงที่อยู่ปัจจุบัน และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ถูกบันทึกไว้แบบอัปเดตล่าสุด
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวที่เดินทางมารับตำแหน่งหลังจากตนเองสามารถต่อยอดการใช้ระบบจัดเก็บฐานข้อมูลดังกล่าวได้ต่อไป โดยข้อมูลจะอยู่ในระบบทั้งหมดแล้ว การทำงานต่างๆ ทั้งงานสืบสวน หรืองานปราบปรามของเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวในเมืองพัทยาจะเป็นไปอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถช่วยลดเวลาในการทำงานเอกสาร เพราะได้รวบรวมข้อมูลผ่านระบบสาระสนเทศ ด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งานได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนไว้แล้ว ซึ่งในต่อไปภายภาคหน้าอาจมีการพัฒนาระดบบดังกล่าวให้มีคุณภาพยิ่งๆ ขึ้นไปด้วย