กาญจนบุรี - สุดเศร้า และเสียดาย ชาวบ้านยางโทน ตำบลศรีมงคล อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี พบต้นตะเคียนทองยักษ์ อายุมากกว่า 300 ปี ถูกโค่นแปรรูปเป็นช่อฟ้าโบสถ์ แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดำเนินคดี พร้อมต่างสาปแช่งขบวนการมอดไม้ ด้านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องจุดธูปเทียนขอขมา ก่อนขนย้ายของกลาง พร้อมควานหาตัวผู้กระทำผิดดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (6 ม.ค.) นายอำนาจ พัชระกุล หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ กจ.10 (ห้วยน้ำขาว) พ.ต.ท.สรรเสริญ ศิริพันธ์ สว.กก.5 บก.ปทส. และ ร.ต.ท.สุวัฒน์ ห้วยหงษ์ทอง รอง สว.กก.5 บก.ปทส.ได้รับแจ้งจาก นายเต้นยิ้ว วชิรพันธ์วิชาญ ประธานกลุ่มอนุรักษ์และประธานราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า ว่า พบต้นตะเคียนทองขนาดใหญ่ถูกขบวนการลักลอบตัดไม้โค่นทิ้งที่บริเวณลำห้วยแม่กะบาล บ้านยางโทน หมู่ 3 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจสอบ
ไปถึงพบ นายอำนาจ พัชระกุล พร้อมกลุ่มชาวบ้านจำนวนหนึ่งรออยู่ สำหรับต้นตะเคียนทองดังกล่าวถูกตัดตั้งแต่โคนล้มพาดไปยังฝังตรงข้ามของลำห้วยแม่กะบาล คาดว่าจากลำต้นไปถึงยอดมีความยาวประมาณ 30-40 เมตร นอกจากนี้ ยังพบว่ากิ่งของต้นตะเคียนทองขนาดใหญ่ถูกตัดแยกออกจากลำต้น และมีช่อฟ้าของโบสถ์ที่ทำจากกิ่งต้นตะเคียนทองวางอยู่ภายในลำห้วย 1 ชิ้น และยังพบปลีกไม้ตะเคียนทองวางทิ้งไว้อีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับต้นตะเคียนทองมีความยาว 6 เมตร เส้นรอบวงกลม ขนาด 5 คนโอบ มีอายุมากกว่า 300 ปี หนักมากกว่า 6 ตัน
จากการวัดค่าพิกัดพบว่า ต้นตะเคียนทองที่ถูกโค่นนั้นอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกการตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง จากนั้นจึงจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กระทำผิด และขนย้ายของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.10 (ห้วยน้ำขาว) ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้ นายเต้นยิ้ว วชิรพันธ์วิชาญ ประธานกลุ่มอนุรักษ์ และประธานราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.59 ว่า ต้นตะเคียนทองดังกล่าวถูกตัดโค่น ตนพร้อมสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์จึงเดินทางมาตรวจสอบ เมื่อมาถึงทุกคนต่างรู้สึกตกใจ และเสียดายต้นไม้ต้นนี้เป็นอย่างมาก และที่ผ่านมา พวกตนก็ได้เดินลาดตระเวนเฝ้าระวังการตัดไม้ทำลายป่ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมา พวกตนไม่เคยเดินลาดตระเวนมาเส้นทางนี้เลย และไม่เคยเห็นต้นตะเคียนทองต้นนี้มาก่อน
โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ขนย้ายไปเก็บไว้ที่ กจ.10 และหลังจากเสร็จสิ้นคดี ตนและสมาชิกก็จะทำเรื่องขอให้นำต้นตะเคียนดังกล่าวมาเก็บเอาไว้ที่วัดยางโทน เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้บูชา เพราะต้นตะเคียนทอง ถือว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านของเราอีกต้นหนึ่ง แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะมอบให้พวกเราหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากลักษณะการนำกิ่งของต้นตะเคียนแปรรูปออกมาเป็นช่อฟ้า เชื่อว่าผู้กระทำคงมีจุดประสงค์ที่จะนำไปสร้างโบสถ์ที่วัดแห่งใดแห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างแน่นอน สำหรับการขนย้ายต้นตะเคียนนั้นเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากตลิ่งของลำห้วยค่อนข้างชัน
อีกทั้งต้นตะเคียนนั้นหนักมาก เจ้าหน้าที่จึงต้องนำรถบรรทุก 10 ล้อ ของ ออป.มาชักลาก และบรรทุกไปเก็บเอาไว้เป็นของกลาง โดยก่อนการชักลากขึ้นมา เจ้าหน้าที่ รวมทั้งชาวบ้านต่างนำธูปเทียนมาจุดเพื่อขอขมาเจ้าแม่ตะเคียนทอง ตามความเชื่อของแต่ละคน ซึ่งชาวบ้านต่างกล่าวสาปแช่งกลุ่มผู้กระทำผิดไปต่างๆ นานาอีกด้วย