ศรีสะเกษ- ญาติพี่น้องเก็บฟืนเตรียมเผา 4 ศพครอบครัวคนขับกระบะ เหยื่อรถตู้มรณะแบบโบราณ ขณะพ่อผู้เสียชีวิตเลื่อนกำหนดเผาศพเป็นวันที่ 7 ม.ค. เนื่องจากตามความเชื่อของชาวส่วย ไม่ให้เผาศพคนตายโหงในวันศุกร์
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวบ้านหว้า ต.กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ประสบอุบัติเหตุรถตู้พุ่งมาชนกับรถกระบะที่ชาวบ้านหว้าโดยสารมาด้วย ที่บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 344 อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ทำให้ชาวบ้านหว้าซึ่งเป็นญาติพี่น้องกันเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 11 ศพ มีรอดชีวิตเพียง 1 คน ขณะรถตู้มีผู้เสียชีวิต 14 ศพ รอดชีวิต 1 คน รวมมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 25 ศพ โดยล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนชาวศรีสะเกษ และบริษัทประกันภัย นำเงินมามอบให้การช่วยเหลือแก่นายแอ๊ด สิงขรณ์ อายุ 64 ปี และนางชะมอง สิงขรณ์ อายุ 64 ปี พ่อและแม่ของครอบครัวคนขับรถกระบะที่เสียชีวิตทั้งพ่อแม่ลูก 4 ศพ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,192,722 บาท ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (6 ม.ค.) ที่วัดบ้านหว้า หมู่ 2 ต.กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ นายยิ่ง สิงขรณ์ อายุ 59 ปี พร้อมด้วย ชาวบ้านหว้าได้พากันออกไปหาเก็บฟืนภายในป่ารอบบริเวณวัดเพื่อให้ได้ฟืนจำนวนมากเตรียมนำมาใช้ในการประกอบพิธีฌาปนกิจศพของครอบครัวคนขับรถกระบะที่เสียชีวิตยกครัว ประกอบด้วย นายน้อย หาญเสมอ อายุ 38 ปี, นางนอง หาญเสมอ อายุ 39 ปี, ด.ช.วีระศักดิ์ หาญเสมอ อายุ 13 ปี และ ด.ญ.การ์ตูน หาญเสมอ อายุ 1 ขวบ 1 เดือน โดยมีการแยกกองฟืนออกเป็นกองจำนวน 4 กอง เพื่อเตรียมฌาปนกิจศพตามแบบประเพณีของชาวส่วยโบราณ หรือชาวกูย ชนเผ่าพื้นเมืองศรีสะเกษ
ขณะที่บริเวณศาลาตั้งบำเพ็ญกุศลศพภายในวัดบ้านหว้า ได้มีบรรดาญาติและชาวบ้านหว้าซึ่งส่วนมากเป็นญาติพี่น้องกันพากันมาเคารพศพกันอย่างต่อเนื่องท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า มีนางชะมอง สิงขรณ์ อายุ 64 ปี และญาติพี่น้องคอยต้อนรับผู้ที่มาร่วมงานศพ รวมทั้งมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขต ต.กู่ และส่วนราชการต่างๆ มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ด้วยความรักและอาลัยในครอบครัวที่เสียชีวิตในครั้งนี้
นายยิ่ง สิงขรณ์ อายุ 59 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหว้า กล่าวว่า กลุ่มญาติพี่น้องได้ตกลงกันว่าจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพทั้ง 4 ศพของครอบครัวหาญเสมอ ตามแบบประเพณีของชาวส่วย โดยใช้ฟืนหรือไม้ทั่วไปมาเป็นเชื้อเพลิงในการเผาศพ โดยก่อนตั้งเชิงตะกอน จะมีการโยนไข่ หากไข่ตกแตกที่จุดใดจะตั้งเชิงตะกอนที่จุดนั้น เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมานานหลายชั่วอายุคน
นายแอ๊ด สิงขรณ์ อายุ 64 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตามกำหนดการเดิมนั้นตนและญาติพี่น้องจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพลูกสาว ลูกเขย และหลานทั้ง 4 ศพในวันศุกร์ที่ 6 ม.ค. แต่เนื่องจากว่าตามประเพณีชาวส่วยโบราณเชื่อว่าในวันศุกร์เป็นวันที่ไม่ดี ห้ามเผาผีตายโหง อีกทั้ง พระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจ.ศรีสะเกษ ให้เลื่อนจากวันศุกร์เป็นวันเสาร์ให้เป็นไปตามความเชื่อของชาวส่วยโบราณ ดังนั้นจึงมีการปรับเปลี่ยนกำหนดการใหม่ โดยจะทำการเผาศพในวันเสาร์ที่ 7 ม.ค. 60 เวลา 13.00 น. ที่วัดบ้านหว้า ต.กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ
ทางด้านนายตึ๋ง สิงขรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหว้า กล่าวว่า การฌาปนกิจศพของครอบครัวหาญเสมอ จะเรียนเชิญ นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มาเป็นประธานในพิธี และนายอำเภอปรางค์กู่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.ทุกแห่งในเขต อ.ปรางค์กู่ และอำเภอใกล้เคียง มาร่วมพิธีฌาปนกิจศพ ซึ่งขณะนี้ยอดเงินบริจาคช่วยครอบครัวผู้เสียชีวิตยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้สรุปยอดที่ชัดเจน เนื่องจากยังมีผู้ที่ให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ น.ส.ปราณี บุญทูล อายุ 25 ปี ที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์จากการที่รถกระบะถูกรถตู้ชนในครั้งนี้ ได้แขวนเหรียญหลวงปู่เพียง ปิยธัมโม รุ่นแรก โดยหลวงปู่เพียงเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านหว้า ซึ่งชาวบ้านหว้าและประชาชนในเขต อ.ปรางค์กู่ ให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก
