xs
xsm
sm
md
lg

ญาตินำร่าง “น้องกันต์” นิสิตแพทย์เหตุรถตู้ชนกระบะ มาบำเพ็ญกุศลที่จันทบุรีบ้านเกิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จันทบุรี - ญาติ และอาสากู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี นำร่างนิสิตคณะแพทยศาสตร์ ปี 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถตู้โดยสารชนกับรถยนต์กระบะ มาบำเพ็ญกุศลศพยังวัดป่าคลองกุ้ง จังหวัดจันทบุรีแล้ว

วันนี้ (4 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.รถจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมญาติ และอาสากู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้นำร่างขอ งนายพรหมพต กอศิริวลานนท์ หรือกันต์ นิสิตคณะแพทยศาสตร์ ปี 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถตู้โดยสารชนกับรถยนต์กระบะ ที่ถนนสาย 344 บ้านบึง-แกลง มาบำเพ็ญกุศลศพยังวัดป่าคลองกุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีแล้ว

หลังจากที่เมื่อวานนี้ ญาติได้เดินทางขึ้นไปรับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา และทางเพื่อนได้นำศพไปรดน้ำศพที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ก่อน ก่อนให้รถจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เดินทางนำศพลงมาส่งด้วยตนเอง โดยมีรถของสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี นำทางมา

บรรยากาศที่ศาลาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดป่าคลองกุ้ง ค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงญาติเดินทางมารอรับศพ โดยเฉพาะยายของ นายพรหมพต หรือน้องกันต์ ผู้เสียชีวิตเมื่อเดินทางเข้าไปดูร่างของหลานชายที่อยู่ภายในโลง พร้อมกับเสื้อผ้า และชุดกีฬาตัวเก่ง ถึงกับเข่าทรุด นั่งร้องไห้แทบขาดใจ โดยมีบรรดาหลานๆ คอยปลอบใจอยู่ไม่ห่าง

นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี เข้าร่วมรับศพ และพูดคุยถึงแนวทางการช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตในโอกาสนี้ด้วย

นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้เปิดเผยว่า ได้มีการประสานติดต่อเรื่องการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวผู้ประสบเหตุแล้ว แต่ยังไม่ทราบยอดเงินที่แน่ชัด

ส่วนทางจังหวัดจันทบุรี ได้ประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดจันทบุรี ในการมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติรายละ 10,000 บาท ซึ่งเป็นการร้องขอพิเศษ ส่วนเรื่องการฟ้องร้องทางคดีความ หากญาติต้องการดำเนินเรื่อง ทาง ปภ. ก็ยินดีที่จะประสานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพราะเป็นหน่วยงานราชการ แต่เพราะเป็นชาวจันทบุรีเหมือนกัน

น.ส.ปาเจรา กอศิริวลานนท์ อายุ 23 ปี พี่สาว นายพรหมพต หรือน้องกันต์ ได้เปิดเผยพร้อมน้ำตาว่า ทางครอบครัวรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องสูญเสียผู้เป็นความหวังของครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะน้องชายควรจะมีอนาคตที่ไกลกว่านี้ ไม่ควรจบชีวิตลงแต่เพียงเท่านี้

ทั้งนี้ อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเข้มงวดอย่างจริงจัง ไม่ใช่เมื่อถึงเหตุการณ์ความสูญเสียแต่ละครั้งแล้วกระตือรือร้น จะนำกฎหมายออกมาใช้ แต่เวลาผ่านไปกลับไม่เหมือนมีอะไรเกิดขึ้น ทางครอบครัวอยากให้จริงจังต่อเรื่องนี้ เพราะหากต่อไปมีอุบัติเหตุ หรือความสูญเสียแบบนี้เกิดขึ้นอีก ความสูญเสียก็อาจจะเกิดขึ้นกับครอบครัวคนอื่นอีกเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น