ฉะเชิงเทรา - ผอ.แขวงการทางฉะเชิงเทรา เผยยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัดอุบัติเหตุเบนซ์ตกร่องกลางถนนจนเกิดไฟลุกไหม้ และมีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 4 ราย เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นเส้นทางตรง และไม่ใช่จุดอันตราย เชื่อส่วนหนึ่งเกิดจากขับรถเร็ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5 คน หลังผู้ร่วมเดินทางรายล่าสุดเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนบรรดาญาติๆ ทยอยเดินทางรับศพด้วยความโศกเศร้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (3 ม.ค.) บรรดาญาติๆ ได้ทยอยเดินทางมารับศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ S280 สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กน 352 กทม. ตกร่องกลางถนนบริเวณถนนสาย 304 ใกล้หลัก กม.ที่ 101 จนเกิดไฟลุกไหม้ และมีผู้ได้เสียชีวิตรวม 5 ราย ที่โรงพยาบาลพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าโศก
โดยทางโรงพยาบาลได้ประกาศรายชื่อผู้เสียชีวิตรายที่ 5 คือ นายชัยโรจน์ รัชตะชัยอนันต์ อายุ 60 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลพุทธโสธร หลังจากทีมแพทย์ได้พยายามผ่าตัดม้ามเพื่อยื้อชีวิตแต่ไม่สำเร็จ
สำหรับรายชื่อของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นายพิฑูรย์ ถาวรสถิตย์ อายุ 44 ปี (เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลพนมสารคาม) นายอมรฤทธิ์ ถาวรสถิตย์ อายุ 62 ปี และนางยวนใจ ถาวรสถิตย์ อายุ 85 ปี (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ) ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย คือ นางสรินญพร รัชตะชัยอนันต์ อายุ 65 ปี ชาวกรุงเทพฯ (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ) และนายชัยโรจน์ รัชตะชัยอนันต์ อายุ 60 ปี ที่เสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย
นายชาติพงษ์ รตโนภาส ผู้อำนวยการแขวงการทางฉะเชิงเทรา เผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของอุบัติเหตุที่แน่ชัดว่าเป็นเพราะเหตุใด เนื่องจากถนนสาย 304 ช่วงเลยหน้าวัดโพธิ์ใหญ่ไปแล้ว เป็นเส้นทางตรงผิวถนนเรียบ และไม่ใช่จุดอันตรายที่มักอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หรือซ้ำซาก จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และสืบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นต่อไป
“แต่จากที่ทางแขวงการทาง ได้เดินทางไปดูจุดเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.ที่ผ่านมา พบว่า รถยนต์ได้พุ่งชนกับต้นตะแบก ที่ปลูกอยู่ในร่องกลางถนน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นประมาณ 5-6 นิ้ว จนขาดเป็นสองท่อน จึงแสดงว่ารถคันนี้ขับมาด้วยความเร็วสูง จึงอาจเสียหลักตกลงไปในร่องกลางถนน และชนต้นไม้ดังกล่าว”
นายชาติพงษ์ ยังกล่าวอีกว่าจ ากการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้พากันเดินทางไปเยี่ยมอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเกษียณอายุราชการ และป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น โดยตลอดทางทั้งขาไปและกลับ จะมี 3 คนผลัดเปลี่ยนกันขับรถ และได้เดินทางจากโรงพยาบาลขอนแก่น เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ และได้พักรถที่อำเภอกบินทร์บุรี ก่อนจะออกเดินทางต่อเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. กระทั่งประสบอุบัติเหตุดังกล่าว