อุบลราชธานี/นครพนพม - สนธิหลายหน่วยงานตั้งจุดอำนวยความสะดวกการจราจรตามเส้นทางไปแหล่งท่องเที่ยวใน จ.อุบลฯ หวังลดอุบัติเหตุเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ แต่เข้าสู่ 7 วันอันตรายในวันที่ 2 ตายเพิ่มอีก 3 ศพ เหตุขับรถเร็วแล้วประมาท ขณะที่ ขนส่ง จ.นครพนม สุ่มตรวจแอลกอฮอล์พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ
ที่สามแยกตำบลกลาง ถนนเดชอุดม-บุณฑริก อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี พ.อ.เอกราช อินทรักษ์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 กองบัญชาการกองทัพไทย นำเจ้าหน้าที่ทหารประจำหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 และเครื่องกลหนักใช้ช่วยเหลือประชาชน ร่วมกับส่วนปกครองท้องถิ่น และตำรวจ ตั้งจุดบริการประชาชนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร ตรวจซ่อมบำรุงยานพาหนะ
พร้อมบอกเส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญตามแนวชายแดนไทย ลาว และกัมพูชา ซึ่งช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีนักท่องเที่ยว ประชาชนใช้เส้นทางไปท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวบนอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จำนวนมาก เพราะเป็นถนนเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 24 โชคชัย-เดชอุดม และเริ่มมีการจราจรหนาแน่นตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ หรือหลงทางของประชาชน
ขณะที่ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 จังหวัดอุบลราชธานี รายงานวันที่ 2 ของการรณรงค์ 7 วันอันตราย ตลอด 24 ชั่วโมง วันที่ 30 ธ.ค. จังหวัดอุบลราชธานี มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทั้งหมด 49 ครั้ง บาดเจ็บ 53 คน เสียชีวิต 3 คน
โดยเป็นรถจักรยานยนต์ชนหลักกั้นขอบทางในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี ผู้เสียชีวิตชื่อ นายไวศญา โคตรโสภา อายุ 19 ปี และรถยนต์กระบะชนกับรถยนต์เก๋ง บนถนนเดชอุดม-น้ำยืน บริเวณบ้านเก่าขาม ต.เก่าขาม อ.น้ำยืน มีผู้เสียชีวิต 2 คน ทราบชื่อคือ นางวิไลลักษณ์ โพธิทัตย์ อายุ 35 ปี และ ด.ญ.ชมพูนุท รัตนจุล อายุ 12 ปี ส่วนสาเหตุเกิดจากขับรถเร็วแล้วประมาท โดยทั้งสองเหตุเกิดในช่วงใกล้ค่ำ
ขณะเดียวกัน วันเดียวกันนี้ (31 ธ.ค.) ที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ดร.ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่สุ่มตรวจแอลกอฮอล์พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และสร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนที่มาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560
ดร.ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า การลงพื้นนี้ในครั้งนี้ นอกจากจะตรวจแอลกอฮอล์แล้ว ยังมีการตรวจสภาพร่างกายของพนักงานขับรถ โดยทุกคนจะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย อีกทั้งสภาพความพร้อมของรถโดยสารด้วยไม่ว่าจะเป็นสภาพยางรถ อุปกรณ์ป้องกัน และระงับเหตุฉุกเฉินภายในรถ
เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง ประตูฉุกเฉิน และค้อนทุบกระจก ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และจากการตรวจวัดแอลกอฮอล์นั้นยังไม่พบพนักงานขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งขอฝากแจ้งไปยังพี่น้องประชาชนที่มาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ
ทั้งนี้ หากพบเห็นพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถร้องเรียนมาที่สายด่วน 1584 ได้ตลอดเวลา จะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ และหากผิดจริงจะมีการลงโทษตามกฎหมายทันที โดยหลังจากนี้ จะลงพื้นที่ตามจุดอำนวยความสะดวกจุดให้บริการ และด่านชุมชนต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
รวมถึงสอบถามปัญหา อุปสรรค และข้อแนะนำต่างๆ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขแผนการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
