ตราด - หลาน 4 ขวบ จมน้ำเสียชีวิต ขณะตากำลังปลูกผักใกล้สระน้ำ โดยไม่ทันระวัง จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
วันนี้ (30 ธ.ค.) ร.ต.ท.หญิง ชมพูนุช สิงห์สถิตย์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลตราด เจ้าหน้าที่กู้ภัยบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด เดินทางตรวจสอบผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 6/1 ม.4 บ้านทุ่งไก่ดัก ต.ท่ากุ่ม อ.เมือง จ.ตราด
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ นายณัฐพงษ์ สัจจา อายุ 70 ปี ตา และนางอุษา ห้ากลิ่น อายุ 55 ปี ยายนั่งอยู่ข้างศพ ด.ช.อนนท์ วงศ์สวรรค์ อายุ 4 ขวบ 11 เดือน กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนสุนันทาวิทยาคม หลานชายที่จมน้ำเสียชีวิตในสระข้างบ้านด้วยความเศร้าโศกเสียใจ จากนั้นแพทย์ได้ชันสูตรศพ ด.ช.อนนท์ พบว่า ขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำจนเสียชีวิต ขณะที่ตาและยาย ไม่ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มอบศพให้ญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า วันนี้หลานชายไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะตัวร้อน กระทั่งเวลาประมาณ 10 โมง ตนเองพร้อมกับหลานออกไปปลูกผักข้างบ้าน ส่วนยายเดินทางไปที่โรงเรียนสุนันทาวิทยาคม ระหว่างที่กำลังขุดดินได้ให้หลานไปอยู่ด้านหลัง เพราะกลัวด้ามจอบจะถูกตัว พร้อมสังเกต และเรียกหลานชายตลอดเวลา และมารู้ตัวอีกทีหลานก็หายไปแล้ว โดยได้พยายามตามหาก็ไม่พบทั้งบ้านญาติ ทั้งบริเวณที่ปลูกผักก็ไม่เจอ สุดท้ายพบหลานจมน้ำนอนอยู่ใต้สระน้ำที่มีความลึก 4 เมตร จึงได้กระโดดน้ำลงไปช่วย แต่ไม่ทันหลานเสียชีวิตแล้ว
“ตนเองเสียใจมากที่ต้องสูญเสียหลานไป เนื่องจากเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆ โดยพ่อแม่ ไปทำงานที่กรุงเทพฯ และอยากจะฝากเตือนผู้ใหญ่ที่มีเด็กเล็กให้ระมัดระวัง และอยู่ใกล้ชิดกับเด็กให้มาก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับหลานชายตัวเอง” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ด้าน นางอุษา ห้ากลิ่น ที่อยู่ในอาการช็อก ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองเดินทางไปจ่ายเงินค่าเรียนพิเศษให้แก่หลานที่โรงเรียน โดยให้ตากับหลานอยู่ด้วยกัน 2 คน ก่อนที่ญาติจะโทรศัพท์แจ้งว่าหลานเสียชีวิตแล้ว จึงรีบกลับมาจากโรงเรียนเพื่อมาหาดูหลาน และบอกว่า ในสระน้ำดังกล่าวมีปลาคาร์ปอยู่ 3 ตัว หลานชอบดูและชอบตะโกนเรียก ซึ่งคาดว่าก่อนเกิดเหตุหลานน่าจะเดินไปที่สระน้ำเพื่อไปดูปลาคาร์ป แต่พลัดตกสระน้ำจนเสียชีวิต