ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำแถลงผลการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วงก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ จับกุมคดีสำคัญ 5 ราย ผู้ต้องหา 10 คน ของกลางยาบ้ารวม 1,616,285 เม็ด และไอซ์ 8.6 กิโลกรัม โดยหนึ่งนั้นเป็นการจับกุมยาบ้ากว่าล้านเม็ดที่ซุกกระเป๋าเดินทางขึ้นรถทัวร์จากเชียงใหม่เข้ากรุงเทพฯ
วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร รักษาราชการแทนผู้ช่วยบัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ห้วงระหว่างวันที่ 21-24 ธ.ค.59 ที่สามารถจับกุมคดีสำคัญได้ จำนวน 5 ราย ผู้ต้องหา 10 คน ของกลางยาบ้ารวม 1,616,285 เม็ด และไอซ์ 8.6 กิโลกรัม
โดยหนึ่งในคดีสำคัญที่จับกุมได้จากการปฏิบัติการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่ทา จังหวัดลำพูน และสถานีตำรวจภูธรห้างฉัตร จังหวัดลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันจับกุมยาเสพติดได้ของกลางยาบ้า 1,116,285 เม็ด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.59 จากการตั้งด่านตรวจและจุดสกัด ผู้ต้องหา 6 คน ได้แก่ นายเจริญ โอบอ้อม อายุ 52 ปี ชาวอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ นายครรชิตพล พุฒทอง อายุ 42 ปี ชาวกรุงเทพฯ นายพุฒิพงศ์ กุศลพยุงกิจ ชาวอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ นายภัทราวุธ ดวงรัตน์ อายุ 40 ปี ชาวอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ นายสมเจต อินทร์คง อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ และนายณัฐตพล แก้วคง อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการหาข่าวของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจนทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ภาคเหนือ นำไปส่งยังพื้นที่ภาคกลาง โดยจะลำเลียงยาเสพติดมากับรถยนต์โดยสารประจำทาง จึงมีการประสานงานกันให้ทำการหยุดรถและเพื่อทำการตรวจค้นที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่ทา พบผู้ต้องหาที่ 1-3 จึงได้ขอทำการตรวจค้นตัวและบริเวณช่องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถ ผลปรากฏว่า พบของกลางยาเสพติดซุกซ่อนในกระเป๋าสัมภาระจำนวนหลายแห่ง รวมของกลางยาบ้าที่ตรวจพบ 740,285 เม็ด
จากนั้นทำการสืบสวนขยายผลกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดโดยทันที และสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม จำนวน 3 คน ของกลางยาบ้า 380,000 เม็ด ได้ที่บริเวณจุดสกัดหน้าสถานีตำรวจภูธรห้างฉัตร รวมของกลางยาบ้าทั้งสิ้นจำนวน 1,116,285 เม็ด
ขณะที่คดีสำคัญอื่นๆ ที่จับกุมในห้วงเวลาเดียวกันนั้น เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.59 เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรปาย และทหาร ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด ในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน วันที่ 21 ธ.ค.59 เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางยาบ้า 394,000 เม็ด และไอซ์ 8.6 กิโลกรัม วันที่ 22 ธ.ค.59 เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเชียงดาว และทหาร ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่ด่านตรวจแก่งปันเต๊า อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.59 เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเวียงแก่น ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 56,000 เม็ด บริเวณถนนสายเทิง-เวียงแก่น อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากสืบทราบว่า จะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดกัน อย่างไรก็ตาม คนร้ายไหวตัวทัน และหลบหนีไปได้
รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผลการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในครั้งนี้ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา และยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก เป็นความร่วมมือกันในการทำงานของทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้แผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด
ทั้งนี้ จะมีการดำเนินการทำงานอย่างเข้มงวดต่อเนื่องในการปราบปราม และสกัดกั้นยาเสพติด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่อาจจะมีความพยายามฉวยโอกาสของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในการลักลอบลำเลียง
ด้าน พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 กล่าวว่า ทางทหารพร้อมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และทุกช่วงเวลา ทั้งนี้ แม้จะเป็นในช่วงที่ทหารมีการโยกย้ายตำแหน่งของระดับผู้บังคับบัญชา และช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่สกัดกั้นยาเสพติดในทุกช่องทางของทหารยังคงเข้มข้นเป็นปกติเช่นเดิม ทั้งพื้นที่แนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
