เตือนแล้วไม่ฟัง เริ่มแล้วยึดรีสอร์ต “ภูชี้ฟ้า” รุกป่าสงวน

เชียงราย - ทหาร ตำรวจ ป่าไม้สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการตรวจยึดรีสอร์ต “ภูชี้ฟ้า” แล้ว หลังพบมีรุกป่าสงวนแห่งชาติกันอื้อ แถมมีแนวโน้มสร้างเพิ่มอีก

วันนี้ (21 ธ.ค.) พ.อ.จิตติวัศร์ ศรสุวรรณ์ รอง ผอ.รักษาความมั่นคงภายใน (รมน.) จ.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ภานุมาศ ทองคำเปลว รองหัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกับสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย, กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.เชียงราย, ทหารพราน ทพ.31 กองกำลังผาเมือง, ศปทส.ภ.5, ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจยึดรีสอร์ต-บ้านพักตากอากาศเขต ต.ตับเต่า อ.เทิง-ต.ปอ อ.เวียงแก่น

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรีสอร์ตพื้นที่ ม.24 ต.ตับเต่า ซึ่งสร้างเป็นห้องๆ เรียงรายกันในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และสถานประกอบการที่มีทั้งที่พัก-ห้องอาหารในเขต ม.11 ต.ปอ อ.เวียงแก่น พร้อมแจ้งขั้นตอนให้ผู้ที่ดูแล หรือผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของได้ทราบก่อนจะนำป้ายแจ้งการดำเนินคดี ฐานรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่อิงฝั่งขวา และป่าแม่งาว

เบื้องต้นผู้ที่ดูแลรีสอร์ตบางรายอ้างว่าเจ้าของตัวจริงไม่อยู่ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันจะดำเนินการตรวจยึด โดยให้เหตุผลว่าเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 54 ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 54 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 ฐานยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำอื่นใดๆ ทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต

ขณะที่บางรายได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ระหว่างแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้ตรวจสอบอีกครั้ง และขอเลื่อนการตรวจยึดออกไปเป็นวันที่ 28 ธ.ค.นี้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือถึงมณฑลทหารบกที่ 34 จ.พะเยา ที่เคยเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้เวลาเพื่อรอคำตอบตามที่ร้องขอ

ทั้งนี้ เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อนเจ้าหน้าที่ได้ประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายชาวบ้านที่อาศัยอยูในเขตพื้นที่สูงใกล้วนอุทยานภูชี้ฟ้าทั้ง 2 อำเภอ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการจัดระเบียบพื้นที่ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เนื่องจากพบว่ามีการปลูกสร้างรีสอร์ต-ที่พักบริการนักท่องเที่ยวใกล้ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง ฯลฯ อยู่ในเขตป่าไม้ และพื้นที่ปฏิรูปการเกษตร (ส.ป.ก.) รวม 145 แห่ง อยู่ในเขต ต.ปอ 24 แห่ง และ ต.ตับเต่า จำนวน 41 แห่ง และมีแนวโน้มว่าจะมีการก่อสร้างเพิ่มขึ้น

โดยแบ่งรีสอร์ตเหล่านี้ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. ผู้มีสิ่งปลูกสร้างอยู่ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตามกฎหมายอย่างถูกต้อง 2. เป็นกลุ่มที่สร้างบนที่ดินก่อนมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2541 และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่ไม่เข้าคุณสมบัติทั้งข้อ 1 และข้อ 2