xs
xsm
sm
md
lg

“เชียงใหม่” หมอกคลุมเมืองซ้ำ-เที่ยวบินดีเลย์ 5 ไฟลต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากการท่าอากาศยานเชียงใหม่
เชียงใหม่ - หมอกลงหนาชัดทั่วเมืองเชียงใหม่ ทัศนวิสัยเขตการบินลดวูบซ้ำเป็นวันที่สอง เที่ยวบินดีเลย์เช้านี้ 5 เที่ยว ขณะที่รถราต้องเปิดไฟหน้าป้องกันอุบัติเหตุ



วันนี้ (21 ธ.ค.) นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) กล่าวว่า เช้าวันนี้ยังคงเกิดหมอกลงจัดบริเวณท่าอากาศยานเชียงใหม่เป็นวันที่สอง หลังจากวานนี้ (20 ธ.ค.) มีหมอกลงหนาจัดจนกระทบต่อการบินนานกว่า 1 ชั่วโมง

โดยเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.ที่ผ่านมาทัศนวิสัยการมองเห็นในเขตการบินอยู่ที่ประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่ ทชม.ทอท.จึงได้เปิดไฟทัศนวิสัยต่ำ พร้อมประกาศเตือนการปฏิบัติงานในเขตการบิน ต่อมาเวลาประมาณ 07.40 น. ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลงต่ำกว่า 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ประกาศหยุดการทำงานในเขตการบินทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานในเขตการบินเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่ออากาศยานและผู้ใช้บริการ แต่หยุดปฏิบัติงานเป็นเวลาประมาณ 10 นาที และสามารถให้บริการได้ตามปกติเมื่อเวลาประมาณ 07.50 น.

อย่างไรก็ตาม เหตุทัศนวิสัยต่ำ (Low visibility) ดังกล่าวทำให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินขึ้นลงได้ ส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้าจำนวน 5 เที่ยวบิน คือ

1. สายการบินไทยสมายล์ เที่ยวบิน WE 150 เส้นทางดอนเมือง เชียงใหม่ กำหนดเวลาลงปกติ 07.40 น. บินวนและสามารถลงได้เมื่อเวลา 08.05 น.

2. สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 101 เส้นทางอู่ตะเภา-เชียงใหม่ กำหนดเวลาลงปกติ 07.35 น. บินวนและสามารถลงได้เมื่อเวลา 08.20 น.

3. สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 3437 เส้นทางดอนเมือง-เชียงใหม่ กำหนดเวลาลงปกติ 07.50 น. บินวนและสามารถลงได้เมื่อเวลา 08.17 น.

4. สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD 8302 เส้นทางดอนเมือง-เชียงใหม่ กำหนดเวลาลงปกติ 08.00 น. บินวนและสามารถลงได้เมื่อเวลา 08.14 น.

5. สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD 8301 เส้นทางเชียงใหม่-ดอนเมือง กำหนดออกเวลา 07.45 น. เลื่อนเวลาออกเป็น 08.09 น.

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่กล่าวด้วยว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นลงในช่วงนี้อาจส่งผลให้เกิดทัศนวิสัยต่ำในเขตการบินขึ้นได้อีก ดังนั้นผู้ที่ต้องเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างประเทศ อาจจะต้องเผื่อเวลาในการต่อเครื่องให้มากขึ้น

ขณะที่ผู้ใช้รถใช้ถนนที่มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งส่งบุตรหลานไปเรียนหนังสือ และเดินทางไปทำงาน ต่างต้องเปิดไฟหน้ารถ และขับขี่ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางสายเชียงใหม่-หางดง ขาเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ใกล้กับสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ช่วงที่หมอกเคลื่อนตัวผ่านหนาทึบ ทำให้ยานพาหนะที่วิ่งบนท้องถนนต้องหยุดวิ่ง และจอดรถข้างทางชั่วคราวเป็นเวลานานเกือบ 30 วินาทีจึงจะเดินทางต่อไป เนื่องจากมองไม่เห็นทาง

นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร เวรพยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีหมอกหนาบางพื้นที่ตลอดระยะสัปดาห์นี้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา และดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นไว้ด้วย

ทั้งนี้ ภาคเหนือตอนบนมีอากาศค่อนข้างหนาวถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-17 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด

อุณหภูมิต่ำประมาณ 07-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุณหภูมิต่ำสุดวันนี้วัดได้ 6.0 องศาเซลเซียสที่ กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่





กำลังโหลดความคิดเห็น