เชียงใหม่ - นักท่องเที่ยว และนักวิ่ง 53 ประเทศทั่วโลกกว่า 12,000 คน ร่วมแข่ง “เมืองไทย เชียงใหม่ มาราธอน 2016 ครั้งที่ 11 เฉลิมฉลอง 720 ปี เมืองเชียงใหม่” รมว.การท่องเที่ยว เชื่อมั่นดัน เชียงใหม่ เป็นสปอร์ตเดสติเนชัน ดึง นทท.กลุ่มใหม่ และศักยภาพสูงเข้าไทยได้
เช้ามืดวันนี้ (18 ธ.ค.) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายปวิณ ชำนิประศาสตร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว และนักวิ่งจาก 53 ประเทศทั่วโลก จำนวนกว่า 12,000 คน รวมทั้งนักท่องเที่ยวในกลุ่มสปอร์ตทัวริซึมชาวไทย ที่เข้าร่วมแข่งขัน “เมืองไทยเชียงใหม่ มาราธอน 2016 ครั้งที่ 11 เฉลิมฉลอง 720 ปี เมืองเชียงใหม่” ณ ข่วงประตูท่าแพ กลางเมืองเชียงใหม่
นายปวิณ กล่าวว่า งานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความรุ่งเรืองยาวนาน 720 ปี ของจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนระลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ร่วมก่อตั้งเมืองเชียงใหม่ และการพัฒนาเมืองเชียงใหม่สู่เมืองมรดกโลก รณรงค์ให้คนเชียงใหม่ และประชาชนคนไทยออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ด้วยการเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ สร้างและพัฒนาภาคีเครือข่ายการออกกำลังกายด้วยการเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังช่วยยกระดับการจัดการแข่งขัน เชียงใหม่มาราธอน ให้เป็นงานวิ่งประเพณีนานาชาติประจำจังหวัด และประจำภูมิภาค และที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง นำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งไปบริจาคเพื่อหน่วยงานอันเป็นสาธารณะกุศลในจังหวัดเชียงใหม่
สำหรับการแข่งขันจัดขึ้นทุกกลุ่มอายุ ทั้งชาย และหญิง แบ่งเป็นประเภท Full Marathon 42.195 กิโลเมตร, มาราธอนหน้าใหม่ ชาย/หญิง ที่เป็นคนไทย, Half Marathon 21.1 กิโลเมตร และ Mini Marathon 10 กิโลเมตร ยกเว้นการแข่งขันประเภท “วิ่งแฟนซี เมืองไทยสมายรัน” ในปีนี้ คณะกรรมการจัดงานยกเลิกการจัดเพื่อความเหมาะสมในการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เชียงใหม่ ถือเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิต มีที่พัก สถานที่ที่เหมาะสำหรับจัดกิจกรรมสปอร์ตทัวริซึม
ซึ่งหากมีการบูรณาการระหว่างภาคเอกชนในพื้นที่กับภาครัฐที่จะสนับสนุนอย่างจริงจัง เชื่อว่าจะส่งผลให้เชียงใหม่กลายเป็นสปอร์ตเดสติเนชันในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ จะสามารถยกระดับการท่องเที่ยว และกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่เป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงได้ ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าไทยมีจำนวนไม่แพ้ตลาดจีน เพื่อให้การท่องเที่ยวของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทุกด้าน