เชียงราย - เทศบาลนครเชียงราย จับมือทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เร่งเจรจาเถ้าแก่ร้านอาหารดังรุกน้ำกก ก่อนยกให้กรมโยธาฯ พัฒนาเป็นปอดแห่งใหม่ของเมือง พบมีนายทุนฮุบที่สาธารณะให้เช่ากันปีละเกือบแสนบาท
วันนี้ (16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลนครเชียงราย ได้ร่วมกับ ร.ท.ไพบูลย์ ตาจันทร์ หัวหน้าหมู่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย อ.เมืองเชียงราย พ.ต.ท.สิราวิทย์ พุ่มพวง สวป.สภ.เมืองเชียงราย และฝ่ายปกครอง อ.เมืองเชียงราย นำกำลังประมาณ 100 นาย เข้าตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างริมฝั่งแม่น้ำกกฝั่งเหนือ เขตชุมชนฝั่งหมิ่น ชุมชนป่าแดง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย หลังจากได้รับแจ้งต่อเนื่องว่า มีร้านอาหารหลายแห่งรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ และแม่น้ำมานาน
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าเจรจากับ นายเจษฎากร กนกสว่าง ที่แสดงตัวเป็นเจ้าของร้านชายน้ำ ร้านอาหารชื่อดังริมฝั่งแม่น้ำกก เขตชุมชนฝั่งหมิ่น พร้อมแสดงหลักฐานว่า ร้านดังกล่าวรุกพื้นที่สาธารณะริมฝั่งแม่น้ำกก จึงขอให้ย้ายออกไปเสีย ซึ่งนายเจษฎากร ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และยินยอมจะรื้อร้านออก
ทั้งนี้ นายเจษฎากร ได้ขอเวลาอีก 2-3 เดือน หาสถานที่สร้างร้านใหม่ให้แล้วเสร็จก่อน เพราะที่ผ่านมา ได้กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินมาสร้างร้าน และเช่าที่ดินในราคาสูงถึงปีละประมาณ 80,000 บาท โดยเช่ามานานกว่า 4 ปีแล้ว เพราะไม่ทราบว่าเป็นที่สาธารณะ หากทราบคงไม่เช่าเพราะไม่อยากมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม นอกจากร้านอาหารชายน้ำดังกล่าวแล้ว คณะเจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบร้านอาหารท่าน้ำภูแล ซึ่งตั้งอยู่ตรงคอสะพานข้ามแม่น้ำกก จุดที่มีทิวทัศน์สวยงาม โดยแจ้งให้ผู้ดูแลร้านได้ทราบว่า ร้านอยู่พื้นที่สาธารณะเหมือนกัน ซึ่งทางผู้ดูแลร้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีพร้อมระบุว่า ได้เช่าที่ดินโดยไม่ทราบว่าเป็นที่สาธารณะ และพร้อมจะย้ายออกไปในเวลาประมาณ 2 เดือนนี้
นายทนง ดอนชัย รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า เทศบาลฯ ได้ยกพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำกกให้แก่ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ริมฝั่งให้เป็นถนนสาธารณประโยชน์ รวมระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร กว้าง 15 เมตร ภายใต้งบประมาณ 180 ล้านบาท ซึ่งจะทำเป็นสถานที่ออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน วิ่ง และเป็นปอดแห่งใหม่ของเมืองเชียงราย ซึ่งขณะนี้กรมโยธาฯ กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดอยู่
“เทศบาลฯ จำเป็นที่จะต้องส่งมอบพื้นที่ให้กรมโยธาฯ แต่เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีร้านอาหารอยู่ 3 แห่ง และบ้านเรือนของชาวบ้านอีก 3 ราย ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณะตามแนวโครงการนี้ กรณีของชาวบ้านนั้นทางเจ้าของบ้านยอมรื้อถอนแล้ว เช่นเดียวกันร้านอีกรายที่ยอมรื้อถอนเช่นกัน เหลือแต่ร้านชายน้ำ และร้านท่าน้ำภูแล แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา”
นายทนง กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามหากทางร้านไม่ยอมออกไปเอง เจ้าหน้าที่พร้อมจะดำเนินการให้เอง เพราะถือว่าเป็นที่สาธารณะที่ต้องนำมาใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวม