เพชรบูรณ์ - เจ้าหน้าที่จ่อเดินหน้ายึดรีสอร์ตผุดกลางที่ รอส.เขาค้อ เพิ่มอีก 2 แห่ง หลังยึดไปแล้ว 4 รีสอร์ต แต่ยังหวั่นนายทุนหลุดหมด ซ้ำรอย 84 คดีปี 54 จนสิ่งปลูกสร้างผุดเพิ่มเป็นดอกเห็ด บางพื้นที่แทบกลายเป็นเมืองไปแล้ว
วันนี้ (8 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทั้งป่าไม้ ทหาร ตำรวจ ตชด.ที่ 31 ฝ่ายปกครอง และกอ.รมน.เพชรบูรณ์ ผสานกำลังเปิดปฏิบัติตรวจยึด 4 รีสอร์ตเป้าหมายก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างในเขตที่ดิน รอส.และบุกรุกป่าเขาค้อ ฝ่าฝืนประกาศของอำเภอเขาต้อไปแล้วเมื่อวานนี้ ล่าสุดยังเหลือเป้าหมายที่คณะเจ้าหน้าที่เตรียมปฏิบัติการตรวจยึดจับกุมเพิ่มเติมอีก 2 รีสอร์ตที่อยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.สะเดาะพง และเขตพื้นที่คาบเกี่ยวหมู่ 1 กับหมู่ 12 ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่ระหว่างก่อสร้างเช่นเดียวกัน
นายฐิติศักดิ์ กันเขตต์ นายอำเภอเขาค้อ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งเตือนเจ้าของรีสอร์ตทั้ง 2 แห่งดังกล่าวนี้แล้วเช่นกัน แต่ยังเพิกเฉย จึงพูดคุยกับทางฝ่ายทหาร และป่าไม้ เพื่อเตรียมเข้าดำเนินการตรวจยึดจับกุมในเร็วๆ นี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การจับกุมรีสอร์ตรุกที่ รอส.เขาค้อ ในครั้งนี้ ทางคณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ยังคงกังวลเกรงว่า จะซ้ำรอยการจับกุมรีสอร์ต 84 คดีเมื่อปี 2554 ซึ่งไม่สามารถเอาผิดต่อนายทุนได้ ขณะเดียวกันยังส่งผลให้รีสอร์ตเหล่านี้ทำธุรกิจต่อไปโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และยังมีรีสอร์ตอื่นๆ ทยอยผุดเพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ด จนบางจุดหนาแน่นแทบจะกลายเมืองขนาดย่อม นอกจากนี้ยังมีการซื้อขายที่ดิน รอส.กันอย่างเอิกเกริก กระทั่งที่ดินส่วนใหญ่ที่กองทัพภาคที่ 3 จัดสรรให้แก่ รอส.ต้องตกไปอยู่ในอุ้งมือนายทุนเป็นจำนวนมาก
ว่ากันว่า สาเหตุที่ทำให้นายทุนเหล่านี้หลุดคดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในชั้นการจับกุม และชั้นสอบสวนมีการส่งกระดาษหรือบันทึกการจับกุมแค่เพียงใบเดียว จึงขาดหลักฐานและรายละเอียดที่มีน้ำหนัก กระทั่งถูกทนายฝ่ายตรงข้ามใช้เป็นช่องโหว่นำไปหักล้างจนชนะคดี ขณะเดียวกัน ทาง รอส.เจ้าของที่ดินก็อาจรู้เห็นเป็นใจโดยอ้างว่าทำธุรกิจร่วมกันกับนายทุน
แนวทางแก้ไขเบื้องต้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร้องขอให้ทางฝ่ายทหารนำเสนอกองทัพภาค 3 ให้พิจารณาปลด รอส.ที่กระทำผิดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดิน 9 ข้อ เพราะหากไม่ดำเนินการ ก็จะมีการใช้หลักฐานนี้ไปต่อสู้เรื่องขาดเจตนา โดยตัวแทนฝ่ายทหารรับปากจะตรวจสอบรายชื่อ รอส.เจ้าของที่ดิน ที่มีชื่อในทะเบียนอยู่แล้ว จากนั้นจะประสานงานไปกองทัพเพื่อให้พิจารณาดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป