ศูนย์ข่าวศรีราชา - โจรขี่จักรยานยนต์กระชากสร้อยศรีราชาชุม ก่อเหตุ 2 รายรวดในเวลาใกล้เคียงกัน ได้สร้อยคอทองคำหนักรวม 6 บาท แถมที่เหตุเกิดห่างกันไม่ถึง 1 กิโลเมตร ซ้ำยังขับหนีผ่านหน้าป้อมยามตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งวุ่นหาภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
เมื่อเวลาประมาณ 19.20 น.วันนี้ (6 ธ.ค.) พ.ต.ต.สุรชัย โพธิ์แก้ว สวป.สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย ร.ต.อ.ณรงค์ โยธาแข็ง รอง สวป.สภ.ศรีราชา เจ้าหน้าที่สายตรวจนาพร้าว รับแจ้งมีเหตุคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำไป 3 บาท แล้วขับหลบหนีไปบริเวณแยกชากค้อ เส้นทางศรีราชา-หนองยายบู่ หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา หลังรับแจ้งจึงรีบรุดเข้าตรวจสอบพร้อมวิทยุสั่งการให้สายตรวจรถจักรยานยนต์ออกตรวจสอบบริเวณพื้นที่
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายคือ นายธลัช กุลภรณ์ อายุ 39 ปี ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ริมถนน และที่บริเวณลำคอด้านขวามีร่องรอยจากการถูกกระชากสร้อยไปจนเป็นรอยแดงช้ำ โดยเปิดเผยว่า ขณะที่เดินมาหาซื้อดอกไม้เพื่อจะนำไปไหว้พระในช่วงเช้า เห็นคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย 1 คน รูปร่างผอมสูงประมาณ 165 ซม.สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีเทา สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงขายาวสีทึบ นั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดติดเครื่องอยู่ตรงที่มืดริมทาง ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะยังมีชาวบ้านผ่านไปมาพลุกพล่าน จึงเดินผ่านไปเพื่อจะไปหาซื้อดอกไม้
แต่ขณะเดินผ่านคนร้ายได้อาศัยจังหวะกระชากสร้อยทองคำลายกระดูกงู น้ำหนัก 3 บาท ที่คอแล้วเร่งเครื่องขับหลบหนีออกไปทางแยกหนองยายบู่ จึงได้เรียกให้ชาวบ้านช่วย และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดังกล่าว
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบพระหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ปี 2508 เลี่ยมทอง 50 สตางค์ ตกอยู่ 1 องค์ บนถนนห่างจากจุดที่คนร้ายก่อเหตุประมาณ 5 เมตร ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บ และส่งมอบคืนให้
หลังจากนั้น ประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านขายโทรศัพท์ เส้นทางอัสสัมชัญ-หนองค้อ หมู่ 5 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุแรกประมาณ 1 กิโลเมตร แต่อยู่ถนนคนละเส้น จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และวิทยุสกัดจับคนร้ายโดยทันที
ในที่เกิดเหตุพบ นายสุรชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเปิดเผยว่า ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาหาซื้อของกับลูกสาว โดยแวะเข้าไปซื้อในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในบริเวณที่เกิดเหตุ พอขับรถออกมาได้สักระยะก็มีรถจักรยานยนต์อีกคันมาประกบ แล้วกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ที่คอตนเองทันที แล้วขับรถหลบหนีไป ตนจึงขับรถไล่ตามไปได้สักระยะหนึ่ง แต่ตนขับไม่ทันคนร้ายจึงหนีรอดไปได้
หลังจากนั้น จึงตรวจสอบที่คอพบว่า ยังมีสร้อยคอพร้อมพระเลี่ยมทองอีกส่วนหนึ่งขาดติดอยู่กับตัว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบทันที ซึ่งคนร้ายใส่เสื้อสีดำ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขับรถจักรยานยนต์แบบออโตเมติก ไม่ทราบสี และทะเบียนเป็นพาหนะ
สำหรับจุดที่เกิดเหตุที่ 2 อยู่ใกล้กับตู้ยามนาพร้าวเพียง 500 เมตร ซึ่งคนร้ายขับรถจักรยานยนต์หนีผ่านหน้าตู้ยามแห่งนี้ไปด้วยโดยไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ระหว่างเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีเพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป