คนขับรถบัสสายแปดริ้ว-วังน้ำเย็นวูบคาพวงมาลัยไหลตกข้างทาง โชคดีไม่มีใครเสียชีวิต

ฉะเชิงเทรา - คนขับรถบัสโดยสารประจำทาง สายฉะเชิงเทรา-วังน้ำเย็น เกิดวูบหมดสติคาพวงมาลัย ก่อนตัวรถจะเสียหลักตกลงไปในร่องกลางถนน แต่โชคยังดีที่ตัวรถค่อยๆ ไหลพลิกคว่ำลงกับพื้น ที่มีผู้โดยสารเกือบ 30 คน รอดปลอดภัย ส่วนคนขับได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

วันนี้ (26 พ.ย.) พ.ต.ต.เดชฤทธิ์ ศรีคชา สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารประจำทางสาย ฉะเชิงเทรา-วังน้ำเย็น-คลองหาด ตกถนนพลิกคว่ำที่บริเวณด้านหน้าสนามกอล์ฟซันไรส์ลากูล บนถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ด้านฝั่งขาออก ก่อนถึงทางสามแยกหนองปลาตะเพียนประมาณ 500 เมตร พื้นที่ ม.4 ต.ท่าทองหลาง อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบรถบัสโดยสารประจำทางสีขาวคาดฟ้า แถบแดง เลขข้างรถ 737-21 หมายเลขทะเบียน 10-1914 ฉะเชิงเทรา สายดังกล่าวเสียหลักตกลงไปอยู่ในร่องกลางถนนลักษณะนอนพลิกตะแคงข้าง โดยมีคนขับ คือ นายสุรินทร์ ทิดพรม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ม.4 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา หมดสตินอนฟุบอยู่คาพวงมาลัย โดยมีผู้โดยสาร และนางอุไร ทิดพรม อายุ 68 ปี ภรรยาของคนขับ ซึ่งทำหน้าที่กระเป๋ารถได้พยายามช่วยเหลือนำตัวออกมาจากตัวรถ

ก่อนที่รถฉุกเฉินจากหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราจะเร่งให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตคนขับ หลังพบว่าหัวใจได้หยุดเต้นแล้ว ก่อนที่จะรีบนำตัวส่งต่อไปให้แก่รถหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินจากโรงพยาบาลบางคล้า ที่เดินทางมารับช่วงต่อระหว่างทางเพื่อนำส่งไปยังโรงพยาบาลบางคล้า ส่วนผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางมาในรถจำนวนเกือบ 30 ชีวิต ซึ่งมีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ต่างพากันอยู่ในอาการตกใจ และเสียขวัญ แต่โชคยังดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เลยแม้แต่คนเดียว

โดย นางสมจิตร เอกจันทร์ทรี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 334/3 ม.10 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ผู้โดยสารรายหนึ่งที่เดินทางมากับหลานๆ เป็นเด็กหญิงวัย 10 ขวบ 1 คน และ 6 ขวบ 1 คน กล่าวว่า ได้เดินทางมาจากบ้านในพื้นที่ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อมาประชุมผู้ปกครองในสถานศึกษาแห่งหนึ่ง โดยได้พาเด็กๆ ซึ่งเป็นบุตรของลูกชาย ประกอบด้วย ด.ญ.จันทรรัตน์ เอกจันทร์ทรี วัย 10 ขวบ และ ด.ญ.ธีรดา เอกจันทร์ทรี วัย 6 ขวบ มาด้วย

โดยได้มาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านยังสถานีขนส่งผู้โดยสารฉะเชิงเทรา ระหว่างทางได้ยินเสียงคนขับบ่นว่าปวดท้อง และได้เห็นคนขับได้พยายามประคองพวงมาลัยรถเพื่อที่จะหยุดรถ จากนั้นจึงได้มีอาการฟุบวูบ และแน่นิ่งลงไปติดคาอยู่บนพวงมาลัย ท่ามกลางความตกใจของบรรดาผู้โดยสารทั้งหมดที่นั่งมาบนคันรถ ก่อนที่ตัวรถจะเสียหลักตกลงไปยังในร่องกลางถนน และค่อยๆ เอียงนอนล้มตะแคงลงกับพื้นอย่างนุ่มนวล ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่คนเดียว

ด้าน นางอุไร ทิดพรม กล่าวว่า ปกตินายสุรินทร์ คนขับ ซึ่งเป็นสามีนั้นก็ไม่เคยพบว่ามีโรคประจำตัวมาก่อน และเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงดี แต่อยู่ๆ ก็เกิดมีอาการปวดท้องขึ้นมาอย่างเฉียบพลันอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่จะฟุบหมดสติลงคาพวงมาลัย ซึ่งในขณะนั้นตนก็ยังนั่งอยู่ด้วยกันข้างคนขับ ก็ได้พยายามที่จะช่วยดึงพวงมาลัยรถแล้วเพื่อจะประคองรถไม่ให้ตกถนน แต่พวงมาลัยกลับดึงไม่มาเพราะสามีล้มฟุบนอนทับอยู่จึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น หลังเกิดเหตุในครั้งนี้ตนก็ไม่มีเงินทุนจะทำกิจการต่อแล้ว ก็คงต้องเลิกเดินรถไปเลยเพราะไม่มีเงินทุนที่จะกลับมาซ่อมรถทำใหม่อีกแล้ว

ด้าน พ.ต.ต.เดชฤทธิ์ กล่าวว่า สาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดจากคนขับได้เกิดอาการปวดท้องขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน จึงทำให้รถเสียหลักตกถนน ส่วนผู้โดยสารที่นั่งมาบนรถจำนวนเกือบ 30 คนนั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรินทร์ ทิดพรม ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลบางคล้า หลังถูกนำตัวส่งไปถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน เนื่องจากไม่สามารถที่จะช่วยปั๊มหัวใจเพื่อให้ชีพจรฟื้นกลับคืนมาได้