บุรีรัมย์ - เทศบาลจันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ สำรวจ “ปราสาทไบแบก” กลุ่มปราสาทบริวารอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อร่วมกับกรมศิลปากรบูรณะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานแห่งใหม่ เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมโบราณ
วันนี้ (17 พ.ย.) นายสันติ อุทุมพร นายกเทศมนตรีตำบลจันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เข้าสำรวจปราสาทไบแบกศาสนสถานในศิลปะขอม ที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ตั้งอยู่เขตรอยต่อชายแดนไทย-กัมพูชา หมู่ 3 บ้านสายโท 5 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด เพื่อร่วมกับกรมศิลปากรบูรณะตัวปราสาท ปรับภูมิทัศน์โดยรอบ และซ่อมแซมถนนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานแห่งใหม่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมโบราณ
โดยปราสาทไบแบกดังกล่าวมีตัวปราสาทก่อด้วยอิฐไม่สอปูน จำนวน 3 องค์ วางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้บนฐานศิลาแลงเดียวกัน ปราสาทแต่ละหลังมีประตูทางเข้าฝั่งทิศตะวันตกด้านเดียว ด้านอื่นเป็นประตูหลอก เสาประดับกรอบประตูแปดเหลี่ยมสร้างด้วยหินทราย ปัจจุบันส่วนยอดของปราสาทด้านทิศเหนือยังพอสันนิษฐานรูปแบบทางสถาปัตยกรรมได้
ปราสาทหลังกลางและด้านทิศใต้พังทลายเหลือเพียงส่วนเรือนธาตุ มีกำแพงแก้วและซุ้มประตูสร้างด้วยอิฐไม่สอปูน มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าล้อมรอบปราสาททั้ง 3 หลัง มีซุ้มประตูทางเข้าอยู่ด้านทิศตะวันตก
บริเวณปราสาทพบฐานประติมากรรมหินทราย เสาประดับกรอบประตูแปดเหลี่ยมปราสาทจำลองและบัวยอด ซึ่งปัจจุบันยังมีความงดงามแม้จะพังทลายเนื่องจากมีกลุ่มคนมาลักลอบขุดหาสมบัติและยังมีชาวบ้านเดินทางมาชมและกราบไหว้ขอพรอยู่อย่างต่อเนื่อง
นายสันติ อุทุมพร นายกเทศมนตรีตำบลจันทบเพชร กล่าวว่า จากข้อมูลและหลักฐานที่พบสันนิษฐานว่าปราสาทไบแบกดังกล่าวน่าจะเป็นกลุ่มปราสาทบริวารของปราสาทพนมรุ้ง ที่ไว้สำหรับเป็นที่พำนักของกษัตริย์สมัยโบราณ ซึ่งเดิมตัวปราสาทมีสภาพสมบูรณ์ แต่หลังจากมีกลุ่มคนเข้ามาลักลอบขุดหาสมบัติจึงทำให้ปราสาทพังทลาย
เทศบาลฯ จะได้ร่วมกับกรมศิลปากรบูรณะปราสาทดังกล่าวเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานแห่งใหม่ ให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมและศึกษาประวัติความเป็นมา เพราะถึงแม้บางส่วนของปราสาทจะพังทลายแต่มีความเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ จึงเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม ซึ่งปราสาทแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว