แพร่ - ผู้ว่าฯ เข้าช่วยเหลือ “น้องบุญรอด เด็กตีนโต” ชาวกะเหรี่ยงเมืองแพร่ หมอภาคเหนือหมดปัญญาช่วยพบไม่ใช่โรคเท้าช้าง แถมพ่วงด้วยอาการทางประสาทชักกระตุก และเลือดไม่พอ ต้องพบแพทย์ทุกสามเดือน ครอบครัวเดือดร้อนหนักเพราะฐานะยากจน
วันนี้ (16 พ.ย.) หลังสังคมในโลกโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์ภาพเด็กชายวัย 8 ปี เข้ารักษาอาการเท้าบวมโตทั้ง 2 ข้างโดยมีพ่อแม่เป็นชาวกะเหรี่ยงอยู่จังหวัดแพร่ นำลูกมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และทราบว่าทั้งสองคนมีฐานะยากจนจึงช่วยการแชร์เรื่องและภาพเพื่อขอให้ผู้ใจบุญได้ให้การช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ทราบเรื่องดังกล่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 2 แม่จองไฟ ต.ห้วยอ้อ อ.ลอง จ.แพร่ เพี่อเข้าเยี่ยมดูอาการของน้องจักรกฤษ ดอกสุข อายุ 8 ปี บุตรของนายพิชัย ดอกสุข อายุ 33 ปี และนางศิริพันธ์ ดอกสุข อายุ 24 ปี ครอบครัวชาวกะเหรี่ยงบ้านแม่จองไฟ โดยมีนายการัตน์ เกื้อวันชัย นายอำเภอลองให้การต้อนรับ พร้อมเหล่ากาชาด อ.ลอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแพร่ โดยได้นำสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นและเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง
นางศิริพันธ์ แม่ของน้องบุญรอดกล่าวว่า ตนเป็นชาวบ้านแม่จองไฟ เป็นชนเผ่าพื้นเมืองกะเหรี่ยง มีอาชีพทำการเกษตร ฐานะยากจน หลังแต่งงานกับสามี ตั้งท้องและคลอดน้องบุญรอดเป็นคนแรก เป็นความหวังของพ่อแม่ที่ได้ลูกชาย แต่หลังคลอดที่โรงพยาบาลแพร่พบว่าเท้าทั้งสองข้างโตผิดปกติ จึงได้ปรึกษาแพทย์ที่ทำคลอด โดยมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียดพบว่าผิดปกติจึงได้ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ตรวจพบว่าบริเวณที่เท้าและขาใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อขยายขึ้นเรื่อยๆ และมีเส้นเลือดฝอยเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่โรคเท้าช้าง และไม่สามารถผ่าตัดให้หายขาดได้
นอกจากนั้นยังพบว่ามีอาการต่อมน้ำเหลืองผิดปกติ ในที่สุดแพทย์ได้ช่วยกันรักษาต่อมน้ำเหลือง หลังทำการรักษาต่อมน้ำเหลืองแล้วได้เกิดอาการทางประสาทมีการชักกระตุกเพิ่มขึ้น ต้องเดินทางไปพบแพทย์ทุก 3 เดือน เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าเลือดในร่างกายของน้องบุญรอดมีปริมาณลดลง ต้องทำการเติมเลือดกรุ๊ป A เป็นประจำและการไปหาแพทย์แต่ละครั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท และยังมีค่าเดินทางและบางครั้งต้องพักค้างคืนในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อรอผลการตรวจอีก แต่ก็จะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะต้องรักษาลูกให้ได้
ด้านนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า น่าสงสารน้องบุญรอดที่ต้องพิการมาแต่กำเนิด และได้ตรวจสอบแล้วพบว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบได้เข้ามาให้การช่วยเหลือเป็นประจำซึ่งต้องขอขอบคุณหน่วยงานราชการ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลห้วยอ้อ ที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ
รวมทั้งศูนย์บริการการศึกษาอำเภอลองก็ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือเช่นกัน การมาพบกับผู้ปกครองของเด็กในวันนี้ อยากให้สังคมมองเห็นและร่วมกันหาทางช่วย ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรักษาให้เด็กคนนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งผู้ปกครองเองก็ต้องการให้ปัญหาที่เป็นอยู่ไม่ลุกลามออกไป ทำอย่างไรให้เท้าและขาของน้องบุญรอดไม่ใหญ่เพิ่มขึ้น และน่าจะมีสวัสดิการ การช่วยเหลือทางสังคมเป็นการร่วมไม้ร่วมมือกันในการทำให้ครอบครัวนี้ได้ลดภาระ ลดการจ่ายเงินไปกับการยังชีพและการรักษา ความร่วมมือของผู้ใจบุญถือเป็นจุดสำคัญที่จะให้ครอบครัวนี้ได้เดินต่อไป
ส่วนแนวทางการช่วยเหลือ สามารถติดต่อมาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้ตลอดเวลา และทางจังหวัดแพร่เองก็เตรียมหน่วยงานที่จะลงไปช่วยในระยะยาวต่อไปแล้ว
