xs
xsm
sm
md
lg

ราคาตกต่ำสุดโลฯ 1.5 บาท! ชาวไร่มันบุรีรัมย์วอนรัฐเร่งพยุงราคา จ่ายชดเชยเหมือนข้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชาวไร่มันสำปะหลัง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เรียกร้องรัฐบาลเร่งพยุงราคามันที่กก.ละ 2.50 – 3 บาท พร้อมจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือไร่ละ 1,000-2,000 บาท เหมือนชาวนา วันนี้ ( 15 พ.ย.)
บุรีรัมย์ - เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ เรียกร้องรัฐบาลเร่งพยุงราคามันให้อยู่ที่กก.ละ 2.50-3 บาท พร้อมจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือไร่ละ 1,000-2,000 บาท เหมือนชาวนา หลังนำผลผลิตไปขายตามลานได้เพียง กก.ละ 1.5 บาท ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ชี้ไม่สามารถชะลอเก็บผลผลิตขายได้เพราะจำเป็นต้องใช้จ่ายเงิน

วันนี้ (15 พ.ย.) เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังหลายหมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.หนองบัว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ต้องเร่งเก็บกู้หัวมันสำปะหลังไปขายให้แก่ลานมันในพื้นที่ แม้จะได้ราคาต่ำเพียงกิโลกรัมละ 70 สตางค์ ถึง 1.50 บาท ต่ำกว่าราคารับซื้อที่ติดไว้หน้าลาน เนื่องจากผู้ประกอบการอ้างว่าเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งต่ำ ทั้งที่คุณภาพหัวมันไม่ได้แตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในรอบหลายปี ไม่อยู่ที่จุดคุ้มทุน

โดยเกษตรกรให้เหตุผลว่า ที่ต้องเร่งเก็บกู้มันไปขายในช่วงนี้เพราะจำเป็นต้องนำเงินไปชำระหนี้สิน และใช้จ่ายในครอบครัว จึงไม่สามารถชะลอการเก็บเกี่ยวตามที่ภาครัฐแนะนำได้

จากกรณีดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล หรือกระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งพยุงราคามันสำปะหลังไม่ให้ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2.50-3 บาท พร้อมจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือไร่ละ 1,000-2,000 พันบาท อย่างเช่นมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังให้อยู่รอดได้

จากข้อมูลพบว่า ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังอยู่กว่า 12,000 ราย พื้นที่เพาะปลูกกว่า 300,000 ไร่ ปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 1.2 ล้านตัน อำเภอที่ปลูกมากที่สุด คือ อ.ปะคำ โนนสุวรรณ ละหานทราย และบ้านกรวด จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาราคามันที่กำลังตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ก่อนที่ผลผลิตมันจะออกสู่ตลาดมากภายใน 1-2 เดือนนี้

นายทองใส แหวนมุก รองประธานชมรมผู้ปลูกมันสำปะหลัง จ.บุรีรัมย์ ได้ร้องขอให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาราคามันที่ตกต่ำอย่างเร่งด่วนด้วย เพราะขณะนี้เกษตรกรนำหัวมันไปจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการลานมันได้เพียงกิโลกรัมละ 70 สตางค์ ถึง 1.50 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรไม่สามารถอยู่ได้ เพราะไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต

จึงขอให้รัฐบาลช่วยพยุงราคามันให้สูงขึ้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท หรือ 3 บาท หรือช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันไร่ละ 1,000-2,000 บาท อย่างเช่นมาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวนาปี เกษตรกรผู้ปลูกมันจึงจะอยู่รอดได้




กำลังโหลดความคิดเห็น