เชียงราย - เจ้าหน้าที่ตำรวจล่อซื้อยานรกล็อตใหญ่ ก่อนซ้อนแผนรวบผู้ต้องหาได้เกือบยกแก๊ง พร้อมของกลางยาบ้า 2 แสนเม็ด ไอซ์อีก 1 กก. แต่ตัวการใหญ่สั่งการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่หลงกลข้ามฝั่งมารับเงิน รอดไปได้
วันนี้ (14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผกก.2 ปส.3 มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด 4 คน ที่วางแผนล่อซื้อ และจับกุมได้พร้อมของกลาง สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ผู้ต้องหาทั้ง 4 ประกอบด้วย น.ส.อาเพ่ หมื่อแล อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 95 ม.15 ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย น.ส.สายฝน กำจัด อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 61/5 ม.6 ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย นายนิติพงษ์ พันเงิน อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 21 ม.14 ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย และนาย MG WAI YAN OO หรือนายเก้า ชาวพม่า อายุ 18 ปี
ทั้งหมดถูกจับกุมพร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กข 3082 เชียงราย และยี่ห้อฮอนด้า หมายเลทะเบียน 1 กฆ 5192 เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 100 มัด รวมจำนวน 200,000 เม็ด และยาเสพติดประเภทยาไอซ์ ลักษณะเป็นผลึกใส 1 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัม
การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมของกลางมีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดที่มี นายอาสือ ที่อาศัยอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านตรงกันข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขนยาบ้าจำนวนมากเข้ามาทางชายแดนไทย-พม่า บ้านเวียงหอม ต.แม่สาย อ.แม่สาย
เจ้าหน้าที่จึงวางแผนล่อซื้อเป็นมูลค่า 4.3 ล้านบาท และวางกำลังดักซุ่มอยู่ตามจุดต่างๆ เช่น บริเวณสวนชาน้ำมัน ถนนเหมืองแดง-เกาะช้าง บ้านเวียงหอม รวมทั้งที่ปั๊มน้ำมันที่มีร้านค้าสะดวกซื้อซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันด้วย
ต่อมา เจ้าหน้าที่พบชายหญิงรวม 2 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายนิติพงษ์ และ น.ส.สายฝน ขับขี่รถจักรยานยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน ไปที่สวนชาน้ำมันเพื่อติดต่อกับผู้ซื้อ ก่อนจะพากันขับขี่รถจักรยานยนต์นั่งซ้อนท้ายกันไปทางชายแดนไทย-พม่า บ้านเวียงหอม
เจ้าหน้าที่ชุดล่อซื้อจึงตามไปดู โดยทำทีจะไปรับยาเสพติดดังกล่าว เมื่อไปถึงปรากฏว่า นายเก้า ได้แบกกระสอบใบใหญ่ที่ซ่อนเอาไว้บริเวณพงหญ้าริมฝั่งลำน้ำสายออกมาให้ดู ส่วนนายนิติพงษ์ และ น.ส.สายฝน มีลักษณะเหมือนคอยดูต้นทางให้ เจ้าหน้าที่จึงทำทีให้ทั้งหมดไปรับเงินค่าซื้อยาเสพติดที่ร้านค้าสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันใกล้กัน ซึ่ง นายอาสือ แจ้งทางโทรศัพท์ว่าจะให้ น.ส.อาเพ่ มาร่วมรับเงินด้วย
เมื่อทั้งหมดไปถึงจุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมตัวได้ทั้งหมด รวมถึง น.ส.อาเพ่ ได้นั่งซ้อนท้ายรถของนายเก้า ด้วย แต่นายอาสือ เจ้าของยาเสพติดตัวจริงไม่ยอมข้ามมาฝั่งไทย จึงหนีรอดไปได้
สอบสวนเบื้องต้น นายเก้า สารภาพเป็นลูกน้องของนายสือ และถูกใช้ให้มาขนยาเสพติด รับเงินจริง ขณะที่นายนิติพงษ์ และ น.ส.สายฝน ให้การปฏิเสธ โดยนายนิติพงษ์ ให้การว่า เป็นแฟนของ น.ส.สายฝน ที่เดินทางมาด้วย และไม่รู้เรื่องยาเสพติดทั้งหมด ส่วน น.ส.สายฝน อ้างว่า นายเก้า ซึ่งเป็นหลานของตนได้ยืมรถมาใช้เท่านั้น