ฉะเชิงเทรา - หลายกิจกรรมการแสดงออกถึงความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทยอยเคลื่อนผ่านพื้นที่แปดริ้ว เมืองหน้าด่านสุดท้ายก่อนเข้าสู่เมืองกรุงเทพฯ และพระบรมมหาราชวัง ล่าสุด หนุ่มวัย 51 ปี ขาเจ็บจากถูกสุนัขกัดทนเดินทางด้วยเท้ามาจาก จ.สระแก้ว เพื่อมุ่งหวังที่จะเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพพ่อหลวงให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
วันนี้ (10 พ.ย.) นายณรงค์ ชนะมาร อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.6 ต.ท่าแขก อ.เมือง จ.สระแก้ว หนุ่มใหญ่ผู้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเดินทางด้วยเท้า จากบริเวณหน้าศาลหลักเมือง จ.สระแก้ว มุ่งหน้าที่จะเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ที่พระบรมมหาราชวังให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ก่อนที่จะถึงวันครบรอบ 1 เดือนเต็มในวันที่ 13 พ.ย.59 ของการเสด็จสวรรคตของพระองค์ ได้ผ่านเข้ามายังในเขตตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา แล้วในวันนี้
โดย นายณรงค์ กล่าวว่า ได้เริ่มออกเดินทางมาจากบริเวณหน้าศาลหลักเมือง จ.สระแก้ว ตั้งแต่เมื่อเวลา 06.09 น. ของวันที่ 7 พ.ย.59 ที่ผ่านมา โดยใช้เส้นทางถนนสายสุวรรณศร ทางหลวงหมายเลข 33 เลี้ยวซ้ายออกมาทางถนนสาย 304 บริเวณสี่แยกสามทหารกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และเดินทางเข้ามาสู่ในเขตพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้ จนมาถึงตัวเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อที่จะผ่านเข้าสู่ในเขตพื้นที่มีนบุรี กรุงเทพฯ ต่อไปในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งเป็นการเดินทางด้วยเท้าเป็นวันที่ 4 แล้ว
สำหรับสาเหตุที่อยากเดินเท้าเพื่อเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในครั้งนี้นั้น เนื่องจากได้เคยตั้งใจเอาไว้ว่าจะเดินเท้าเข้าไปนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ท่านทรงประชวร แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เดินเข้าไปสักครั้ง จนมาถึงโอกาสนี้ที่ตนถูกสุนัขกัดที่ขาจึงทำให้ออกไปทำงานรับจ้างอีกไม่ได้ จึงได้อาศัยโอกาสนี้ออกเดินด้วยเท้าจาก จ.สระแก้ว เพื่อที่จะไปกราบสักการะพระบรมศพของพระองค์ท่าน
โดยจะขอไปให้ได้เห็นกับตาเพราะว่ารักพระองค์ท่านมาก โดยตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมานั้น ตนได้แขวนล็อกเก็ตพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านเมื่อครั้งทรงผนวชติดตัวไว้ที่คออยู่ตลอดเวลา เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยไว้โดยตลอด และหลังจากการเดินเท้าไปกราบสักการะพระบรมศพพระองค์ท่านในครั้งนี้แล้ว ตนซึ่งเคยเป็นคนชอบดื่มสุรา ก็จะขอตั้งใจที่จะเลิกเหล้าเพื่อเป็นการทำดีถวายพระองค์ท่าน และทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อลูกของตนเองด้วย
สำหรับการเดินทางด้วยเท้ามาในครั้งนี้ ตลอดเส้นทางที่เดินผ่านมารวม 4 วันแล้ว มีเพียงวันแรกที่รู้สึกท้อถอยเพราะบาดแผลจากพิษสุนัขกัดนั้นอักเสบ จนแผลติดเชื้อกัดหนอง แต่ก็ได้พยายามที่จะอดทนมาจนถึงวันนี้ที่ใกล้จะเข้ามาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งในเส้นทางการเดินทางที่ผ่านมานั้นได้มีอาสาสมัครจากหน่วยกู้ภัยฯ ในพื้นที่ต่างๆ ตลอดตามรายทางได้มาช่วยอำนวยความสะดวกในการระวังความปลอดภัยบนท้องถนนให้เป็นอย่างดี