ศรีสะเกษ - วิกฤตราคาข้าว! ชาวนาหันพึ่งวิถีชีวิตดั้งเดิมเพื่อความอยู่รอด ชวนเพื่อนบ้านลงแขกเกี่ยวข้าวลดต้นทุนการทำนา เผยหากใช้รถเกี่ยวข้าวจะเก็บเกี่ยวข้าวไม่หมด โดยเฉพาะต้นข้าวที่จมน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณกลางทุ่งนาบ้านพิงพวย ต.พิงพวย อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ได้มีชาวนากลุ่มหนึ่งจำนวน 15 คนรวมกลุ่มกันใช้เคียวเกี่ยวข้าวในนาที่ต้นข้าวกำลังสุกรอการเก็บเกี่ยว ซึ่งต้นข้าวบางส่วนได้จมอยู่ใต้น้ำเนื่องจากว่ามีฝนตกลงมาต่อเนื่องกัน 2 วันแล้ว ทำให้มีความยากลำบากในการเก็บเกี่ยวข้าวพอสมควร
โดยข้าวที่เกี่ยวแล้วชาวนาจะมัดกองเอาไว้บนพื้นเพื่อตากให้แห้ง 2-3 วัน จากนั้นจึงจะนำเอาข้าวที่มัดเป็นฟ่อนๆ เอาไว้ไปเข้าเครื่องสีเพื่อเอาข้าวเปลือกไปเก็บไว้ในยุ้งฉางต่อไป
นางพิมนิภา ทนทาน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 12 บ้านพิงพวย ต.พิงพวย อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนทำนาจำนวน 3 ไร่ และไม่ชอบใช้รถเกี่ยวข้าว ใช้แต่มือเกี่ยว เพราะว่าหากใช้รถเกี่ยวจะต้องนำเอาข้าวเปลือกไปตาก แต่หากว่าใช้มือเกี่ยวข้าว มัดข้าวตากเอาไว้ 2 วันก็เอาไปสีได้เลย จากนั้นเอาข้าวเปลือกเข้ายุ้งเก็บไว้
หากใช้รถเกี่ยวข้าวจะต้องเอาไปตากแดด ซึ่งตนจะไม่มีที่ตากข้าว และหากเอาข้าวไปตากแดดอาจจะโดนฝนตกใส่ เก็บไม่ทันเมล็ดข้าวจะงอก อีกทั้งหากว่าใช้รถเกี่ยวข้าวแล้วจะเกี่ยวข้าวในนาไม่หมดทำให้เสียดายข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้นข้าวจมน้ำรถเกี่ยวข้าวจะเก็บเกี่ยวข้าวไม่ได้เลย
นางพิมนิภากล่าวต่อไปว่า ตนไม่ได้จ้างคนมาเกี่ยวข้าว แต่ว่าจะใช้วิธีลงแขกเกี่ยวข้าวแบบโบราณ โดยจะขอแรงกันมาช่วยเกี่ยวข้าว ช่วงที่เพื่อนบ้านเกี่ยวข้าวตนก็จะไปช่วย แต่พอถึงช่วงตนเกี่ยวข้าวเพื่อนบ้านก็จะมาช่วยกัน จะเสียค่าใช้จ่ายเพียงทำอาหารเลี้ยงตอนเที่ยงเท่านั้น วันหนึ่งจะเกี่ยวข้าวได้ 3 ไร่โดยไม่ต้องใช้รถเกี่ยวข้าวแต่อย่างใด
การลงแขกเกี่ยวข้าวแบบโบราณจึงเป็นวิธีการลดต้นทุนการทำนาที่ดีที่สุดในช่วงที่ราคาข้าวเปลือกตกต่ำอย่างหนักอยู่ในขณะนี้