จันทบุรี - ฝนตกถนนลื่น รถยนต์กระบะหลุดโค้งเสียหลักชนท้ายรถบรรทุกขยะ ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายใน 4 ราย ก่อนเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยจันทบุรี จะช่วยกันงัดซากรถนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
วันนี้ (8 พ.ย.) ร.ต.อ.กรีธาพล มีมุข ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนท้ายรถบรรทุกขยะ บริเวณถนนสายจันทบุรี-ตราด ขาออก แยกหนองขอน หมู่ที่ 6 ตำบลคมบาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 4 ราย ติดภายในขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบด้วย
หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.กรีธาพล มีมุข ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้รุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้มีการนำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 คน ส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี ไปก่อนหน้านี้แล้ว ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บน 5950 สุพรรณบุรี อยู่ในสภาพพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้าพังยับเยิน และกระบะท้ายหลุดออกมา กระจกแตก ห่างออกไป 10 เมตร พบรถบรรทุกขยะ 6 ล้อ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 80-8567 จันทบุรี ที่เป็นรถบรรทุกขยะของ อบต.หนองชิม ตะแคงคว่ำอยู่ข้างร่องกลางถนน มี นายสุชัยรัตน์ เลื่อมสำราญ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/3 ตำบลหนองชิม อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นคนขับรถขยะคันดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 คน ที่มากับรถยนต์กระบะในเบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อเนื่องจากมีอาการสาหัส
จากการสอบนาย สุชัยรัตน์ คนขับรถบรรทุกขยะ กล่าวว่า ตนเองขับรถบรรทุกขยะกลับจากการนำขยะไปทิ้งที่ตำบลมะขาม หลังจากทิ้งขยะเสร็จก็ได้ขับรถจะกลับพื้นที่ตำบลหนองชิม และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ประกอบกับมีฝนตกลงมา ได้มีรถยนต์กระบะที่ขับตามหลังมาด้วยความเร็วพุ่งชนที่ท้ายรถบรรทุกขยะของตนเองอย่างจัง ทำให้รถบรรทุกขยะของตนเองหมุนตกไปร่องกลางถนน ส่วนรถยนต์กระบะ ได้เกิดพลิกคว่ำหลายตลบตกไปข้างทาง ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ 4 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี จึงได้เข้าช่วยเหลือนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 คน ออกมาจากรถ และรีบนำส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี อย่างเร่งด่วน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ถ่ายรูปร่องรอยการเฉี่ยวชนในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และจะเรียกมีการสอบสวนคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้งต่อไป
