แพร่- ต้นสักขนาดใหญ่สองข้างทางหลวงหมายเลข 11 ถูกตัดโค่นจำนวนมาก ชุมชนวอนขอชีวิตสักยักษ์ สัญลักษณ์เสาชิงช้าวัดสุทัศน์ สิ่งยึดเหนี่ยวสำคัญของชุมชน แขวงการทางไม่ฝืนสั่งชะลอโครงการทบทวนตัดสักใหม่ในแผนแก้คอขวดหมายเลข 11 เชื่อมล้านนา ออก- ตก
วันนี้ (29 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นางสีนวล ก๊อกไม้ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านไทรย้อย ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ เป็นตัวแทนชาวบ้านแสดงเจตนาในการอนุรักษ์ต้นไม้สักขนาดใหญ่สองข้างทางที่ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ไม่ตัดทำลายมาหลายชั่วอายุคน โดยได้กล่าวว่า ต้นไม้สักหน้าวัดไทรย้อย ถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านหวงแหนมาก และต้นสักอีกหลายต้นที่ชาวบ้านพากันอนุรักษ์ไว้เป็นกลุ่มไม้ส่วนหนึ่งที่เหลือจากการขอไปซ่อมเสาชิงช้าหน้าวัดสุทัศน์ ซึ่งทำให้หมู่บ้านกลายเป็นจุดสนใจ และเปิดเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวท้องถิ่น แต่ถ้าจะมีการตัดต้นสักขนาดใหญ่เหล่านี้ไปหมด หมู่บ้านคงขาดอัตลักษณ์สำคัญไป จึงขอวิงวอนให้กรมทางหลวง ได้โปรดไว้ชีวิตต้นไม้สำคัญของหมู่บ้านเหล่านี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านต่างไม่พอใจที่ กรมทางหลวง เร่งตัดไม้สักขนาดใหญ่ออกอย่างรวดเร็ว ไม่คิดที่จะทำวิธีใดวิธีหนึ่งให้ต้นไม้เหล่านี้ปลอดภัย แต่ใช้วิธีการตัดออกทั้งหมด หลังกระแสต่อต้านการตัดไม้สักขนาดใหญ่แผ่วงกว้างออกไป เป็นที่รับทราบแก่คนโดยทั่วไป และกลุ่มนักอนุรักษ์ที่ให้ความสำคัญต่อต้นไม้ใหญ่ ต่างพากันประณามว่า การกระทำดังกล่าวของกรมทางหลวง เป็นการทำงานที่ขาดวิสัยทัศน์ มุ่งแต่การพัฒนาด้านเดียว
ตั้งแต่เช้าของวันนี้ เครื่องจักรขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขตแพร่ หยุดการทำงานทั้งหมด ไม่มีพนักงานเข้ามาในเขตสร้างทาง มีเพียงผู้บริหารทั้งแขวงการทางแพร่ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขตแพร่ เข้ามาดูพื้นที่ และสอบถามความต้องการของชุมชน พร้อมทั้งตรวจสอบดูต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ยังเหลืออยู่
นายเรวัต พิมสาร ผู้จัดการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เขตแพร่ กล่าวว่า ความจริงแล้ว ออป.มีหน้าที่ปลูกสร้างสวนป่า และทำไม้ในที่ที่ปลูกเท่านั้น แต่ภายหลังมีมติให้ ออป.มีหน้าที่ให้ความร่วมมือหน่วยงานราชการทำไม้ออกจากที่ของทางราชการได้ ในครั้งนี้ได้รับการร้องขอจากแขวงการทางแพร่ จึงเข้ามาดำเนินการตามใบอนุญาตตัดไม้สัก และไม้กระยาเลย โดยมีการตรวจสอบไม้ร่วมกัน ทำบัญชีต้นไม้ที่จะตัด จำนวน 800 ต้น ใน 17 กิโลเมตร ของทางหลวงหมายเลข 11 ขณะนี้ตัดไปแล้ว 206 ต้น ถ้ามีการชะลอการตัดก็จะรายงานไปที่กรมป่าไม้ เพราะใบอนุญาตมีกำหนดเวลาเกรงว่าจะทำงานไม่ทัน ซึ่งกว่าจะได้ใบอนุญาตมาต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี
ด้าน นายอลงกรณ์ กัวตระกูล ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดแพร่ กล่าวว่า การตัดไม้สองข้างทางดังกล่าวเป็นโครงการที่ดำเนินการมานานตั้งแต่ปี 2557 จนอนุมัติให้ดำเนินการนำไม้ออกได้ในปีนี้ ซึ่งจะมีโครงการสร้างทางในปี 2561 ในระยะทาง 12 กม. จากแยกปากจั๊วะ ถึงแยกปางเคาะ ด้วยงบประมาณ 400 ล้านบาท และจะทำไปอย่างต่อเนื่องที่เหลืออีก 45กม.ไปเชื่อมต่อกับถนน 4 ชองทางจราจร ที่สร้างมาจากจังหวัดลำปาง ที่ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งต้องใช้งบประมาณต่อเนื่องกว่า 2,000 ล้านบาท ถ้าเป็นไปตามโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 เส้นทางที่เหลืออยู่ 45 กม. เป็นพื้นที่ที่ต้องสำรวจศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทางโครงการมีแนวทางอนุรักษ์ต้นไม้สองข้างทาง แต่ที่ตัดออกนั้นเป็นต้นที่กีดขวางเส้นทางที่จะก่อสร้างใหม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้ทาง ออป.เขตแพร่ หยุดการตัดไม้สัก และไม้กระยาเลย เป็นการชะลอไว้ก่อน เพื่อหาแนวทางร่วมกับชุมชน และกลุ่มผู้อนุรักษ์ต้นไม้ โดยจะให้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นใหม่ ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป และต้นไม้ที่ยังอยู่มีเป็นจำนวนมาก ในระยะที่ได้งบประมาณสร้างทางปี 2561 ก็จะมีงบประมาณขุดล้อมต้นไม้ที่สำคัญๆ ไปปลูกไว้ในที่ปลอดภัย ซึ่งแขวงการทางจะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ส่วนเส้นทางอาจต้องมีการปรับแบบเพื่อรักษาต้นไม้สำคัญของชุมชนไว้ นายอลงกรณ์ กล่าว