ประชาชนอุบลฯ เรือนหมื่นร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี

อุบลราชธานี - ชาวอุบลฯ เรือนหมื่นรวมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะที่อีกส่วนเดินทางรถไฟเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แสดงอาลัยที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรมาตลอด 70 ปี

ที่บริเวณศาลาจัตุรมุข มณฑลพิธีทุ่งศรีเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมาจากหลายสาขาอาชีพต่างพร้อมใจสวมเสื้อสีดำไว้ทุกข์เกือบ 10,000 คน ร่วมร้องเพลงภูมิแผ่นดินนวมินทรมหาราชา และขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยมีวงออเคสตรา โรงเรียนนารีนุกูล เป็นผู้บรรเลงดนตรี เพื่อแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ระหว่างการร่วมขับร้อง ชาวจังหวัดอุบลราชธานี หลายคนที่ในมือถือ และสวมกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาจากที่บ้านต่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ได้ร่ำไห้ด้วยความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระองค์ท่าน ซึ่งเป็นพ่อของแผ่นดินที่ทรงอยู่ในดวงใจของชาวอุบลราชธานีทุกคน

หลังสิ้นเสียงบทเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เข้าร่วมร้องเพลงได้ยืนสงบนิ่งตั้งจิตอธิษฐานส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เป็นเวลา 9 นาที และร่วมกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมก้มกราบแสดงความอาลัยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ประดิษฐานอยู่ภายในศาลาจัตุรมุข และระหว่างการประกอบพิธีมีฝนตกโปรยปรายลงมาเล็กน้อยให้ผู้เข้าร่วมพิธีพอชุ่มเย็นด้วย

ส่วนที่สถานีรถไฟอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ประชาชนทยอยเข้ามารับตั๋วใช้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ กับขบวนรถไฟฟรี ขบวนรถเร็วที่ 146 ออกจากสถานีเวลา 08.45 น. ถึงกรุงเทพฯ ในช่วงค่ำวันเดียวกัน เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร

นางกร กอผา อายุ 53 ปี ซึ่งเดินทางเป็นครอบครัวกว่า 10 คน กล่าวว่า ครอบครัวของตนและเพื่อนบ้านรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรมากว่า 70 ปี

จึงต้องการไปกราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่เคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระองค์มาก่อน เมื่อเดินทางไปถึงในคืนนี้ก็จะพากันไปนอนรอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพที่บริเวณสนามหลวง และจะได้เดินทางกลับในตอนเย็น