ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 บูรณาการการทำงานร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส.นำกำลังเข้าตรวจสอบหอพักหรูกลางเมืองเชียงใหม่เครือข่ายยาเสพติด “เล่าต๋า แสนลี่” พร้อมรวบตัวลูกชายราชายาเสพติดที่หลบหนีหมายจับตั้งแต่ปี 2546 ได้ด้วย เผยบุกเป้าหมายพร้อมกันหลายสิบจุด มูลค่าทรัพย์สินรวมกันไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ช่วงเที่ยงวันนี้ (28 ต.ค.) พล.ต.ตพูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 และนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 เข้าทำการตรวจสอบหอพักโสภณ แมนชั่น ตั้งอยู่เลขที่ 14/1 ถนนโสตศึกษา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดของ นายเล่าต๋า แสนลี่ พร้อมกันทั้งหมดหลายสิบจุด ในพื้นที่อำเภอแม่อาย อำเภอฝาง และอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เบื้องต้น จากการเข้าตรวจสอบหอพักโสภณ แมนชั่น ครั้งนี้ สามารถจับกุมตัว นายบัญญัติ แสนลี่ ซึ่งเป็นลูกชายของนายเล่าต๋า และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับเมื่อปี 2546 ที่หลบหนีได้ด้วย และพบว่า มีการสวมบัตรประจำตัวประชาชนเป็นบุคคลอื่นด้วย พร้อมจะมีการตรวจสอบด้วยว่าหอพักโสภณ แมนชั่น แห่งนี้ที่มีห้องพักประมาณ 60 ห้อง เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดด้วยหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส.บูรณาการการทำงานร่วมกันเข้าตรวจสอบเป้าหมายหลายสิบจุดพร้อมกันในอำเภอแม่อาย อำเภอฝาง และอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดของ นายเล่าต๋า แสนลี่ ทั้งบ้าน ที่ดิน รวมทั้งที่หอพักโสภณ แมนชั่น
นอกจากนี้ อาจจะมีการเข้าตรวจสอบเป้าหมายเป็นบ้านพักในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ อีก 2 จุดด้วย โดยการเข้าตรวจสอบที่หอพักโสภณ แมนชั่น สามารถจับกุมตัว นายบัญญัติ แสนลี่ ซึ่งเป็นลูกชายของนายเล่าต๋า ที่หลบหนีหมายจับเมื่อปี 2546 ได้ด้วย และพบว่ามีการสวมบัตรประชาชนปลอม ซึ่งจะส่งดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่หอพักโสภณ แมนชั่น ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดนั้น เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบว่า ซื้อมาจากเจ้าของเดิมเมื่อปี 2553 ในราคา 60 ล้านบาท และยังมีการซื้อที่ดินข้างเคียงอีกพร้อมให้เช่าเป็นที่จอดรถ ทั้งนี้ จะมีการอายัดไว้เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป เช่นเดียวกับบ้านพัก ที่ดิน สวนกาแฟ และทรัพย์สินต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบเป้าหมายทั้งหมดพร้อมกันในวันนี้ ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันกว่า 100 ล้านบาท และหากพบว่ามีการการกระทำผิดกฎหมายใดๆ ก็จะดำเนินการต่อไป