กาญจนบุรี - ชายชาวทองผาภูมิ อายุ 56 และ 59 ปี พร้อมบุคคลไม่มีสัญชาติอายุ 31 ปี อยู่ในผืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่เกิด รวม 3 คน น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ “พ่อหลวง ร.๙” เดินเท้าจาก อบต.หินดาด อำเภอทองผาภูมิ มุ่งหน้าสู่สนามหลวง ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อไปกราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.09 น.นายปัญญา ศรีทอง อายุ 59 ปี อาชีพเกษตรกร นายสมชาย ฉุนมี อายุ 56 ปี อาชีพเกษตรกร และนายโมฮามัต อากบาร อายุ 31 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่ เป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติ แต่อยู่ในผืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่เกิด ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นชาวตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ได้พร้อมใจกันสวมชุดสีดำ มีพระบรมฉายาลักษณ์ห้อยคอ ไปกราบถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหินดาด ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
โดยบุคคลทั้ง 3 คน จะเดินเท้าจากตำบลหินดาด เพื่อไปกราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ท้องสนามหลวง โดยใช้เส้นทางถนนสาย 323 เข้าสู่ตัวอำเภอเมืองกาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร จากนั้นเดินเท้าไปตามถนนบายพาส เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนแสงชูโต ไปที่สนามหลวงอีกประมาณ 129 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 269 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องผ่านพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และพื้นที่จังหวัดนครปฐม และตลอดเส้นทางตั้งแต่ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ ไปจนถึงพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง จะมีรถยนต์และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิกู้ภายกาญจนบุรี อาสาคอยอำนวยความสะดวก ซึ่งหากประชาชน หรือผู้ที่ใช้รถใช้ถนนพบเห็นขอให้ร่วมกันคอยอำนวยความสะดวก และคอยให้กำลังใจด้วย
โดย นายโมฮามัต อากบาร เปิดเผยก่อนเดินทางว่า ตนเกิดในประเทศไทย แต่ก็ด้อยโอกาสที่จะได้รับสัญชาติไทย แต่จิตใจของผมก็คือ มีความรักพ่อหลวงไม่แพ้คนใดคนหนึ่ง ซึ่งพ่อหลวงทำเพื่อคนไทยมานาน ในฐานะที่ผมเกิดในผืนแผ่นดินไทยก็อยากจะทำเพื่อพ่อเป็นโอกาสสุดท้ายของชีวิตสักครั้งหนึ่ง
ส่วน นายปัญญา ศรีทอง 59 ปี และนายสมชาย ฉุนมี 56 ปี กล่าวว่า ตนทั้งสองเป็นชาวตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ การเดินเท้าไปที่ท้องสนามหลวงในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทำเพื่อคนไทยมาถึง 70 ปี
