ชาวบ้านผวาเสือตะปบควายแม่-ลูก นายอำเภอนำทีมดูรอยเท้า คาดเป็นเสือปลา

อุบลราชธานี - ชาวบ้าน อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี เอากระบือแม่ลูกไปผูกเลี้ยงในป่าชุมชนใกล้ลำห้วยสาธารณะ พบเสือปลาออกมาตะปบแม่กระบือจนหนังถลอก นายอำเภอทราบนำทีมทหาร อส.และปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจสอบ สั่งระวังอย่าเข้าป่าคนเดียว หากจับตัวเสือได้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นสัตว์สงวนใกล้สูญพันธุ์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (22 ต.ค.) นายจักรพงศ์ พันธุ์เพ็ง นายอำเภอสว่างวีระวงศ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ ทหาร อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านโคกก่อง ตำบลท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบป่าชุมชนบ้านโคกก่อง

หลังได้รับแจ้งจาก นางสังเวียน สีมาบุตร อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 บ้านโคกก่อง หมู่ที่ 11 ตำบลท่าช้าง ว่า เมื่อเช้าวันที่ 21 ต.ค.ได้นำกระบือแม่ลูกไปผูกเลี้ยงไว้ใกล้ลำห้วยซัน ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของลำน้ำโดมใหญ่ ห่างจากหมู่บ้าน 1 กิโลเมตรเศษ

ต่อมา ช่วงสายได้ไปยังจุดที่ผูกกระบือ เพื่อย้ายให้หลบแสงแดด ก็เห็นสัตว์ลำตัวสีเหลืองมีลายคิดว่าเป็นสุนัข ก็ไม่ได้สนใจ และดึงเชือกผูกลูกกระบือไปผูกไว้ในจุดใหม่ แต่หลังกลับมาที่แม่กระบือ อายุประมาณ 13 ปี พบแม่กระบือมีอาการตื่นตระหนก เมื่อสังเกตบริเวณลำตัว และสะโพกหลังมีร่องรอยการตะปบลักษณะคล้ายกรงเล็บเสือ จนมีเลือดไหล และมีรอยถลอกเป็นแนวยาว

จึงนำกระบือแม่ลูกกลับเข้าหมู่บ้านไปเล่าเรื่องให้เพื่อนบ้านฟัง พร้อมลงความเห็นว่า เป็นรอยตะปบของเสือ จึงแจ้งให้ทางอำเภอทราบ

เมื่อ นายจักรพงศ์ พันธุ์เพ็ง นายอำเภอสว่างวีระวงศ์ เข้าตรวจร่องรอยในพื้นที่ป่าชุมชนในจุดดังกล่าว พบรอยย่ำเท้าของสัตว์ชนิดมีกรงเล็บความกว้างประมาณ 3 นิ้ว พบมีร่องรอยการต่อสู้บริเวณใกล้ลำห้วยซัน เมื่อพิจารณาตามรอยการย่ำเท้าคาดสัตว์ดังกล่าวน่าจะเป็นเสือปลา ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก

ทั้งนี้ เพราะในจุดดังกล่าวเป็นป่าโป่ง มีแนวเขตติดต่อกับป่าที่ใช้เป็นสนามใช้ซ้อมรบของกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งมีการพบเห็นเสือชนิดนี้ และหมีเป็นบางครั้ง คาดว่าเสือปลาตัวดังกล่าวกำลังมาล่าสัตว์เล็กเป็นอาหาร แต่มาพบกระบือ จึงเข้าขับไล่ให้ไปพ้นเขตหากินตามสัญชาตญาณของสัตว์ป่า และเมื่อพบคนจึงหลบหนีกลับเข้าไปในเขตป่าที่อาศัยอยู่

แต่เพื่อความปลอดภัย นายจักรพงศ์ ได้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังความปลอดภัย โดยห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยงบริเวณป่าโดยลำพังโดยเด็ดขาด พร้อมจัดชุดเฝ้าระวัง โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 เข้าพิสูจน์ติดตามรอยเท้า

หากพบก็จะจับไปเลี้ยงในสวนสัตว์ หรือหากประชาชนสามารถจับตัวได้อย่าทำร้าย แจ้งให้เจ้าหน้าที่มารับไปเลี้ยงต่อไป เพราะเป็นสัตว์สงวนหายากใกล้สูญพันธุ์จากป่าธรรมชาติ จึงมีความผิดตามกฎหมาย