จันทบุรี - ครอบครัววิไลสมสกุล ปลาบปลื้มหลังเคยรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จเททองหล่อพระประธาน วัดเขาสุกิม พระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน และทรงเยี่ยมราษฎร ณ วัดเขาสุกิม ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ เมื่อปีพุทธศักราช 2520
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2520 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ไปทรงเททองหล่อพระประธาน วัดเขาสุกิม พระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน และทรงเยี่ยมราษฎร ณ วัดเขาสุกิม ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
ครอบครัววิไลสมสกุล เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จในครั้งนั้น พระองค์ยังได้ทรงตรัสรับสั่งกับ นายธงชัย วิไลสมสกุล ในคราวนั้นด้วย ซึ่งเมื่อพูดถึงโอกาสในครั้งที่ นายธงชัย วิไลสมสกุล วัย 78 ปี ยังคงจำได้อย่างชัดเจนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าในตอนนี้ความจำต่างๆ ลบเลือนลงไปบ้าง แต่ความจำ และความรู้สึกที่ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จในคราวนั้นยังคงไม่รู้ลืม
ภาพใบนี้ถูกถ่ายในอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2520 ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ไปทรงเททองหล่อพระประธาน วัดเขาสุกิม พระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน และทรงเยี่ยมราษฎร ณ วัดเขาสุกิม ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
นายธงชัย และนางปราณี วิไลสมสกุล ก็ได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จพระองค์ด้วย แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น พระองค์ได้ทรงตรัสรับสั่งกับ นายธงชัย ที่ในสมัยนั้นเป็นประธานลูกเสือชาวบ้าน ทั้งยังเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ให้ช่วยกันดูแลรักษาป่าไม้ และให้ระมัดระวังตัวในการออกปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยพสกนิกรของพระองค์อย่างแท้จริง
ขณะที่ นางปราณี วิไลสมสกุล แม้ว่าในครั้งนั้นจะยืนอยู่ท้ายแถว ได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์แค่เพียงไกลๆ แต่ก็รู้สึกปลาบปลื้มที่ครั้งหนึ่งในชีวิตเคยเข้าเฝ้ารับเสด็จในฐานะของลูกเสือชาวบ้าน แม้จะเป็นแค่เพียงครั้งเดียวในชีวิตของ นายธงชัย และนางปราณี วิไลสมสกุล ที่ได้มีโอกาสเช่นนี้ แต่ก็ทำให้ลูกหลานในครอบครัวรู้สึกปลาบปลื้มไม่น้อย
นายมนตรี วิไลสมสกุล หรือติ๊ก ในวัย 52 ปี ได้เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ครอบครัวของตน โดยเฉพาะพ่อ ได้มีโอกาสรับเสด็จ ทั้งยังพระองค์ยังทรงตรัสรับสั่งในโอกาสนั้นด้วย แม้ว่าในตอนนี้คนในครอบครัวจะไม่มีโอกาสแล้ว แต่จะน้อมนำสิ่งที่พระองค์ทรงสอนมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ถึงแม้ว่าภาพถ่ายภาพนี้จะเป็นแค่ภาพถ่ายในอดีต แต่เราเชื่อว่าภาพถ่ายใบนี้จะยังคงเป็นที่จดจำของครอบครัววิไลสมสกุลไปตราบนานเท่านาน เพราะพระองค์จะอยู่ในใจของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป