xs
xsm
sm
md
lg

โจ๋สำนึกผิดมอบตัวคดีขโมยพระเครื่อง “หลวงปู่ตื้อ” แต่ตรวจสอบเป็นพระเก๊ทั้งสิ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครพนม - โจ๋วัย 23 ปีโร่มอบตัวตำรวจ สภ.ศรีสงคราม หลังก่อคดีจ้างเยาวชนลอบเข้าไปขโมยพระเครื่องในพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อ ทุบตู้กระจกฉกเหรียญปู่ตื้อไปหลายรายการ พร้อมคืนพระ แต่ตรวจสอบแล้วเป็นของเก๊ทั้งสิ้น ตำรวจตั้งข้อหาลักทรัพย์ยามวิกาล ไม่อนุญาตให้ประกันตัว เล็งสอบสวนขยายผลล่าตัวการ

จากกรณีมีคนร้ายบุกรุกพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อ ภายในวัดอรัญญวิเวก หมู่ 1 ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ทุบกระจกกวาดเอาพระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม พระเกจิอาจารย์สายวัดป่ากรรมฐาน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายเป็นเยาวชนวัย 14 ปี ทำหน้าที่ขโมยวัตถุมงคลมาส่งให้ผู้จ้างวาน โดยรับปากว่าจะให้มือถือไอโฟน 6 หากทำงานสำเร็จ แต่จนมุมหลังทิ้งคราบเลือดไว้ในที่เกิดเหตุตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านั้น

ล่าสุดวันนี้ (12 ต.ค. 59) พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.ศรีสงคราม กล่าวว่า วันนี้หัวหน้าแก๊งที่ขโมยพระเครื่องหลวงปู่ตื้อทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหวติดต่อญาติขอมอบตัว โดยมีนายนิกร คำใบ กำนัน ต.บ้านข่า นำตัวนายอนุชา หรือบอย ยะภักดี อายุ 23 ปี ชาว ต.บ้านข่า ซึ่งเป็นผู้จ้างวานให้เยาวชนไปโจรกรรมทุบกระจก ซึ่งนายอนุชาได้นำของกลางเป็นเหรียญหลวงปู่ตื้อที่ขโมยไปจำนวน 11 เหรียญ มาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำตัวผู้ต้องหาไปพิมพ์ลายนิ้วมือ พร้อมเชิญคณะกรรมการวัดมาร่วมพิสูจน์ของกลางว่าวัตถุมงคลที่นำมาคืนตรงกับที่ขโมยไปหรือไม่

นายชิน ทีสุกะ อายุ 77 ปี ไวยาวัจกรวัดอรัญญวิเวก กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการวัดและผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุมงคลได้ตรวจดูของกลางที่นายบอย ผู้จ้างวาน นำมาคืนให้ ยืนยันว่าของกลางทั้งหมดไม่ใช่วัตถุมงคลที่ถูกขโมยไปและพบว่าเป็นของปลอมทั้งหมด หลังตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่าวัตถุมงคลที่หายไปไม่ตรงกับรูปถ่ายที่วัดบันทึกภาพไว้ คาดว่านายบอยนำเหรียญจริงไปส่งขายตลาดให้เซียนพระตามออเดอร์แล้ว

ทุกเหรียญล้วนเป็นที่ต้องการของตลาดพระเครื่อง สำหรับราคาประเมินรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท หากกระบวนการทางกฎหมายเสร็จสิ้น ทางวัดคงไม่กล้ารับวัตถุมงคลปลอมไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เช่นเดิมแน่นอน

ด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.ศรีสงคราม กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายบอย ผู้ต้องหา และอยู่ระหว่างตรวจสอบของกลางที่นำมาคืน หากกรรมการวัดยืนยันว่าของกลางทั้งหมดไม่ใช่ของแท้ที่ถูกขโมยไป คงต้องสืบสวนในเชิงลึกต่อไปว่านายบอยนำวัตถุมงคลหลวงปู่ตื้อไปขายให้ใคร เชื่อว่านายบอยได้รับใบสั่งจากเซียนพระว่าจ้างเยาวชนบุกเข้าไปกวาดเหรียญวัตถุมงคลออกมา คาดว่าจะใช้อีกเวลาไม่นานต้องรู้ตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังแน่นอน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายอนุชาร่วมกันลักทรัพย์ในยามวิกาล ซึ่งยังไม่อนุญาตให้ประกันตัว อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพื่อนร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป

ไวยาวัจกรวัดอรัญญวิเวก ตรวจสอบพระที่วัยรุ่นนำมาคืน พบว่าเป็นพระเครื่องเก๊ ทั้งสิ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น