สุรินทร์ - ยังไม่จับสึก! เจ้าอาวาสวัดดัง อ.ศีขรภูมิ เมืองช้าง ตบะแตกร่วมนั่งวงซดเหล้ากับชาวบ้านในร้านกลางตลาดสดจนเมา ก่อนชาวบ้านพาขึ้นรถส่งกลับวัด ล่าสุดเจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว คาดทราบผลภายใน 5 วัน
วันนี้ (12 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ปรากฏเป็นข่าวดังพร้อมคลิปวิดีโอ พระสงฆ์ชรา ทราบฉายาต่อมาคือ หลวงพ่อสร้อย สุธมโม อายุ 65 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านสำโรง ต.ขวาวใหญ่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นั่งร่วมวงดื่มสุรากับชาวบ้าน ในร้านอาหารภายในตลาดสดเทศบาลตำบลระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ จนมีอาการเมาและชาวบ้านได้ช่วยกันนำขึ้นรถส่งกลับวัด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ได้เดินทางไปที่วัดศรีวิหารเจริญ ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เพื่อเข้าสอบถามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวกับ พระมหาเจริญสุข คุณวีโร เจ้าอาวาสวัดศรีวิหารเจริญ และเจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิ ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมคณะสงฆ์ และมีการสอบเปรียญธรรมพระภิกษุ และสามเณรจำนวนมาก
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าได้มีคำสั่งคณะสงฆ์อำเภอศีขรภูมิ ที่ 11/2559 เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพระภิกษุในเขตอำเภอศีขรภูมิมีภาพปรากฏผ่านสื่อว่า ดื่มสุรา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว แล้วรายงานผลให้เจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิภายใน 5 วัน โดยมี พระครูวิมลศีขรคุณ รองเจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิ เป็นประธานกรรมการฯ
พระมหาเจริญสุข คุณวีโร เจ้าอาวาสวัดศรีวิหารเจริญ และเจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิ กล่าวว่า ตอนนี้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ พร้อมด้วยตำรวจพระ หรือพระวิญญาธิการ ได้ลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบหาข้อมูล เมื่อทราบข้อเท็จจริงก็จะมีการดำเนินการตามวินัยสงฆ์ต่อไป ทั้งนี้ พระสงฆ์ดื่มสุราโลกติเตียนเป็นอาบัติไม่ร้ายแรงเหมือนปาจิตตี สามารถแสดงต่อหน้าคณะสงฆ์ได้ แต่เป็นอาบัติที่ชาวโลกติเตียน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการจับสึก เพราะต้องรอคณะกรรมการที่ได้มีการแต่งตั้งไปก่อนว่าลงพื้นที่ได้ข้อมูลและข้อเท็จจริงอะไรบ้าง ตอนนี้ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะต้องทำอย่างไร ต้องรอผลสอบข้อเท็จจริงก่อน เสร็จเรียบร้อยก็จะมาสรุปกันว่าจะดำเนินการอย่างไร
“หลังทราบข่าวมีพระภิกษุในเขตอำเภอศีขรภูมิดื่มสุราและมีภาพปรากฏผ่านสื่อก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะพระที่เป็นข่าวเป็นเจ้าอาวาสวัด ฉะนั้นเพื่อให้เกิดผลดีแก่พระศาสนา จึงได้ลงพื้นที่ไปหาข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งแล้ว จึงมาออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีพระครูวิมลศีขรคุณ รองเจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิ เป็นประธานกรรมการฯ และขอเวลาให้คณะกรรมการลงพื้นที่หาข้อมูล เพราะข้อมูลที่เราเห็นในสื่อกับความเป็นจริงอาจไม่ตรงกันทั้งหมดก็ได้” พระมหาเจริญสุขกล่าวในตอนท้าย
