พิจิตร - ชาวนาพิจิตรแสนเศร้าขายข้าวไม่ได้ราคา ยอมก้มหน้ารับสภาพเพราะน้ำท่วมนาข้าว เร่งเกี่ยวขายสด วอนรัฐช่วยพยุงราคาก่อนหนี้สินล้นพ้นตัว ด้านประธานชมรมโรงสีข้าวแจงส่งออกซบยาวส่งราคาข้าวไม่กระเตื้อง
นายสมชาย สุราลักษณ์ อายุ 50 ปี ชาวนาจากหมู่ที่ 2 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร กล่าวว่า หลังจากเกี่ยวข้าวที่ถูกน้ำท่วมแล้วนำไปขายให้แก่ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดพิจิตรที่ให้ราคารับซื้อข้าวเปลือกเพียงตันละ 6,000 บาท เนื่องจากข้าวมีความชื้นสูงทำให้ต้องประสบกับภาวะขาดทุน จึงอยากวิงวอนให้รัฐบาลหาทางพยุงราคาข้าวให้ชาวนาอยู่ได้ เพราะราคาข้าวตกต่ำเช่นนี้อนาคตของชาวนาก็คงจะต้องมีหนี้สินล้นพ้นตัวเพราะขาดทุนจากการทำนา
นายปาน พลายเพลิด ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรพิจิตร กล่าวว่า ช่วงนี้มีชาวนาบางคนเกี่ยวข้าวหนีน้ำข้าวจึงมีความชื้นสูงมากและเป็นข้าวเขียว จึงรับซื้อให้ราคาได้แค่เพียงตันละ 3-4 พันบาท โดยส่วนตัวเห็นใจชาวนา แต่เนื่องจากช่วงนี้ราคาข้าวตกต่ำจึงต้องซื้อข้าวจากชาวนาได้เพียงราคาเท่านี้
ด้านนางมิ่งขวัญ พุกเปี่ยม ประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัดพิจิตร กล่าวยอมรับว่าขณะนี้ราคารับซื้อข้าวเปลือกจ้าวหรือข้าวขาว 5% เปิดราคารับซื้ออยู่ที่ตันละ 7,700 บาท เป็นข้าวแห้งความชื้นไม่เกิน 15% แต่โดยสภาพความเป็นจริงเนื่องจากช่วงนี้เกิดน้ำท่วมและมีฝนตกต่อเนื่อง ชาวนาจึงเกี่ยวข้าวสดทำให้มีความชื้นสูงมากกว่า 25% จึงต้องรับซื้ออยู่ที่ราคา 6,000-6,500 บาท อีกทั้งผู้รับซื้อตามลานตากข้าวก็ไม่สามารถเปิดรับซื้อได้ เนื่องจากซื้อข้าวเปลือกไปแล้วก็ไม่สามารถตากให้เป็นข้าวแห้งได้ ดังนั้นชาวนาจึงต้องมาขายตามโรงสีที่มีไซโลหรือเครื่องอบเท่านั้น
นอกจากนี้ แนวโน้มราคาข้าวเปลือกจะราคาตกต่ำอยู่ในระดับนี้ไปอีกระยะหนึ่งเนื่องจากทิศทางการส่งออกยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร เพราะราคาข้าวเปลือกที่ตกต่ำเป็นเช่นนี้เหมือนกันทั่วโลกจึงทำให้ราคาภายในประเทศรับซื้อข้าวเปลือกลดลงจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงตันละ 200 บาท ส่วนราคาขายข้าวสาร 5% เมื่อสัปดาห์ที่แล้วโรงสีขายส่งให้แก่ผู้รับซื้อได้ในราคาตันละ 11,500 บาท แต่วันนี้ขายได้เพียง 11,200 บาท หรือลดลงตันละ 300 บาท จึงส่งผลมาถึงข้าวเปลือกที่ชาวนาเก็บเกี่ยวต้องราคาลดลงตามไปด้วยอย่างน้อยตันละ 200 บาท อีกทั้งน้ำท่วม ฝนตก ข้าวมีความชื้นสูง บางรายนำข้าวเปลือกที่เกี่ยวสดมาขายชนิดที่เรียกว่าไม่สามารถเข้าเครื่องวัดความชื้นได้ก็ต้องซื้อเหมาอยู่ในราคา 6,000-6,500 บาทเท่านั้น
ส่วนปริมาณข้าวของจังหวัดพิจิตรนั้น คาดว่าฤดูกาลนี้จะมีผลผลิต 930,000 ตัน และผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้วเป็นเพียงส่วนน้อย 10-20% เท่านั้น คาดว่ากลางเดือนพฤศจิกายน 2559 จะมีผลผลิตทะลักออกสู่ตลาด แต่ไม่สามารถยืนยันราคาได้ว่าจะมีแนวโน้มขึ้นหรือลงไปมากกว่านี้ เหตุเป็นเพราะตลาดส่งออกซบเซาดังกล่าว